+ถึงจะเป็นเรื่องราวในแบบสูตรสำเร็จ คนดีโดนหลอกใช้ ถูกทำลายทุกอย่างที่มีอยู่ในมือ แล้วตามมาเอาคืนได้อย่างเจ็บแสบในภายหลัง ซึ่งก็เป็นพล็อตที่คุ้นเคยกันดีสำหรับคอหนังทั่วๆไป แถมยังเป็นหนังวัยรุ่นเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตเช่นที่ได้เห็นกันบ่อยๆอีกต่างหาก แต่ 21 ก็ยังเป็นหนังที่ดูสนุกได้ จากบทที่ไหลลื่น มีจังหวะจะโคน และจากกลุ่มนักแสดงหนุ่ม-สาวฝีมือดีอีก 5 คน ที่ได้พี่เลี้ยงชั้นดีอย่างเควิน สเปชีย์ และลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์นประกบเคียงข้าง ในหนังสร้างจากนวนิยาย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง เรื่องนี้ . . .
+เบ็นจามิน แคมเบลล์ นักศึกษาหัวดีของเอ็มไอที เจ้าของเกรดเฉลี่ยระดับ 4 ที่ถูกเลือกเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด ทว่าขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแรง แต่ด้วยความที่ฉลาด มีไหวพริบ และไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง เบ็นถูกชักชวนโดยจิลล์ เทย์เลอร์ สาวงามที่เขาแอบพึงใจ ให้เข้าก๊วนเล่นพนัน
แบล็คแจ็คถล่มคาสิโนในเวกัส ที่มีมิคกี้ โรซ่า อาจารย์คนหนึ่งเป็นหัวหน้าทีม . . .
+ด้วยความสามารถที่มี เบ็นกลายเป็นรุคกี้ทำเงิน ที่บินไปขนทรัพย์กลับมาจากเวกัสทุกสัปดาห์ และจากความสำเร็จที่ได้รับก็ทำให้เขากำลังจะมีทุนเรียนต่อแพทย์ที่ฮาเวิร์ด . . แต่ในขณะเดียวกัน การที่มาขลุกอยู่กับทีมของโรซ่า ก็ทำให้เขาxxxงเหินไปจากบรรดาเพื่อนซี้กลุ่มเด็กเรียนด้วยกัน หากแต่ความสัมพันธ์ระหว่างจิลล์กับเบ็นกลับยิ่งพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ . .
+ขณะที่ท่ามกลางโต๊ะแบล็คแจ็คในเวกัส เบ็นก็กำลังถูกจับตามองโดยโคล วิลเลี่ยมส์ หัวหน้ารักษาความปลอดภัยผู้คอยดูแลการโกงไพ่ ที่สถานภาพกำลังสั่นคลอน เมื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างโปรแกรมตรวจจับใบหน้าผู้เล่น กำลังได้รับความนิยมเหนือกว่าประสบการณ์ของมนุษย์ซะแล้ว . . .
+และก็เป็นไปตามทางของหนังแนวๆนี้ เบ็นตัดสินใจที่จะนำทีมเอง เมื่อรู้สึกว่าโรซ่าได้เงินตามน้ำสบายๆในแบบไม่ต้องลงแรง และไม่ต้องเสี่ยง ซึ่งก็แน่นอนว่าโรซ่าย่อมไม่ปล่อยให้เขาลอยนวลแน่นอน ส่วนโคลเองก็เฝ้าจับตามองเบ็นอย่างใกล้ชิด และจากสภาพการณ์ดังว่า เบนกำลังจะได้รับบทเรียนบทเรียนชีวิต ที่ซึ่งเอ็มไอที หรือว่าฮาเวิร์ดไม่สามารถสอนให้ได้แน่นอน . . .
+อย่างที่เกริ่นมาตั้งแต่ต้น บทสรุปของ 21 ไม่ใช่เรื่องเกินคาดเดา แต่หนังก็ยังออกมาดูสนุกได้ เมื่อบทหนังสามารถวางจังหวะจะโคนในการเล่าเรื่องได้อย่างไม่น่าเบื่อ และพาคนดูไปข้างหน้าตลอด แม้กับคนที่เล่นแบล็คแจ็คไม่เป็น หรือว่าไม่รู้ทริค และกลเม็ดของตัวละครในการเอาชัยเหนือเจ้ามือก็ตาม . . และที่น่าชื่นชมก็คือหนังสามารถสร้างเสน่ห์ให้กับตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยงานโปรดัคชั่นที่เต็มไปด้วยสีสัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงานด้านเพลง และดนตรีประกอบ ที่เข้ากับงานภาพได้เป็นอย่างดี ให้อารมณ์เสมือนกับกำลังดูหนังที่มาพร้อมกับความขึงขัง จริงจังในตัว . . ทั้งๆที่จริงๆแล้ว กับตัวหนังเอง 21 ไม่ได้เป็นหนังที่ซีเรียสอะไรมากมายนัก และไม่ได้ดำดิ่งอะไรสักเท่าไหน่เลยด้วยซ้ำ . . .
+เห็นได้จากเรื่อง ที่แม้จะสามารถดึงด้านมืดของตัวละครออกมาเล่นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้ 21 กลายเป็นหนังนัวร์ที่เต็มไปด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคมอย่างแยบยลได้ไม่ยาก ทว่าโรเบิร์ต ลูคติก ผู้กำกับผู้มีเครดิตหนังตลาดจ๋าอย่าง Monster-In-Law และ Legally Blonde อยู่ในมือ ก็เลือกที่จะไม่ทำให้หนังหนัก และดูจริงจังจนกลายเป็นหนังผู้ใหญ่มากจนเกินไป หากแต่ตีกรอบการนำเสนอให้หนังออกมาเป็นหนังวัยรุ่น เฝ้าเรียนรู้ และเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิตเสียมากกว่า . . .
+โดยใช้กลุ่มตัวละครวัยรุ่นที่เป็นสีสันในด้านที่สดใส และให้กลุ่มตัวละครผู้ใหญ่ ที่รับบทโดยเควิน สเปชีย์ และลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น เป็นเงาในด้านที่หม่นมืด ที่ช่วยส่งและเสริมได้อย่างลงตัว โดยไม่ถึงขั้นลงลึกไปในปูมหลังของตัวละครทั้งคู่มากจนเกินไป ว่ากันง่ายๆก็คือเอาเพียงแค่ให้ "รู้สึก" ไม่ถึงกับ "สัมผัส" เข้าไปข้างใน . . และในส่วนของบรรดานักแสดงวัยรุ่นเอง นอกจากแต่ละคน จะรับผิดชอบบทที่ตัวเองถืออยู่ในมือได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่ละคนก็ยังมาพร้อมกับเสน่ห์ที่ขึ้นกล้อง และชวนดูเป็นพิเศษ
+โดยเฉพาะกับจิม สเตอร์เจส แม้ภาพจะดูดีเกินการเป็นเด็กเรียน ในกลุ่มพวกเด็กบ้าเรียนไปหน่อยในช่วงแรก แต่เมื่อกลายเป็นคนละคนกับที่เริ่มต้น สเตอร์เจสสามารถเปลี่ยนตัวเองได้อย่างน่าเชื่อถือ ดูน่าสนใจ และมีแรงดึงดูดในตัว หล่อ ใส และได้ใจสาวๆในทุกมุม ทุกท่าทาง โดยไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องของการแสดงที่เอาตัวรอดได้อย่างสบายๆ เช่นเดียวกับเคท บอสเวิร์ธที่ดูเซ็กซี่ และมีเสน่ห์มากกว่าครั้งที่เป็นหวานใจยอดมนุษย์เหล็ก ซูเปอร์แมนด้วยซ้ำ . . .
+ที่น่าสนใจก็คือ สไตล์ในการนำเสนอของหนัง โดยเฉพาะในช่วงก่อนที่เบ็นจะแตกคอกับโรซ่า ผู้กำกับลูคติกทำให้ 21 ออกมาเป็นหนังแอ็คชั่น-หักเหลี่ยม เฉือนคมแบบอังกฤษที่ดูสนุก และเพลินตา ซ้ำยังตอกย้ำด้วยงานดนตรี และเพลงประกอบที่โดดเด่น เรียกได้ว่าครบองค์ประกอบชั้นดีเลยทีเดียว ในการจะสร้างสไตล์เฉพาะในแบบดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งชวนให้นึกถึงหนังของกาย
ริชชี่อยู่ไม่ใช่น้อย หากแต่อยู่ในโทนเบาๆ และไม่กวนเท่า แต่ก็เอาอยู่ . . .
+เสียดายที่ลูคติกไม่สามารถคุมโทนที่ว่าได้ไปจนถึงช่วงท้ายเรื่อง ด้วยความที่หนังวางตัวเองไว้เป็น หนังวัยรุ่นเรียนชีวิตอีกเรื่องหนึ่ง ฉะนั้นกับชะตากรรมที่ตัวละครต้องเผชิญในตอนท้าย จึงไม่แรง และเป็นจริงเป็นจังในแบบโศกนาฏกรรม รวมไปถึงเรื่องราวที่รวบรัด และตัดจบไปอย่างง่ายดายแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชนิดไม่มีอะไรหักมุมแบบเกินความคาดหมายอย่งที่บอกเอาไว้ตอนต้น ก็เลยทำให้ 21 กลายเป็นหนังฮอลลีวู้ดธรรมดาๆเรื่องหนึ่งไปจนได้ . . .
+แต่จะว่าไป ตัวหนัง 21 ที่ชื่อเรื่องเป็นทั้งแต้มชนะของเกมแบล็คแจ็ค และเป็นวัยของตัวละครในเรื่อง ที่พอเดินทางมาจนถึงจุดเปลี่ยน ก็ออกมาเหมือนกับประเด็นที่หนังว่าเอาไว้ไม่มีผิด คนเราต้องรู้จักประมาณตน และใช้ความสามารถของตัวเองในทางที่เหมาะสม และหาหนทางที่ถูกต้องในการเดินไปสู่อนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่เบ็นจามิน แคมป์เบลล์ได้เรียนรู้ เพื่อที่จะเติบโตขึ้น หลังจากผ่านเหตุการณ์สำคัญของชีวิต . . .
+เมื่อผู้กำกับเลือกที่จะทำให้หนังออกมาเป็นหนังวัยรุ่นเรียนรู้ชีวิตในแบบมองโลกใน
แง่ดี มากกว่าที่จะทำให้ 21 ออกมาเป็นหนังที่หนักแน่น จริงจัง ชนิดแบบเจาะเข้าไปในด้านมืดของผู้คน อย่างที่หนังเปิดโอกาสให้ ซึ่งแม้ผลที่ออกมาจะทำให้ขาดความเข้มข้นไป แต่ก็ยังได้อารมณ์แบบหนังดูเพลินๆ สนุกๆมาทดแทน จากบทที่รู้ตัวเองดีว่าจะทำอะไร เล่ายังไง และจะขายแบบไหน!?
+ยังไงซะสูตรสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อเสมอไป หากได้พ่อครัวที่ทำได้ ปรุงเป็น และยังแต่งหน้าอาหารได้อย่างสุดเจ๋ง มันก็ยังจะเป็นอาหารที่น่าทาน และก็กินได้หมดจานโดยไม่ทันรู้ตัวอยู่ดี . . .
+ให้ 2 ดาวครึ่งค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว)
+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1552.html ค่ะ
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ
+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ
Edited by rbgel, 20 November 2009 - 06:13 PM.