`

Jump to content





[ตกผลึกความคิด] กับ The Incredible Hulk


5 replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 17 October 2008 - 08:27 PM

ตกผลึกความคิด และเก็บความประทับใจจากหนัง

"กับ The Incredible Hulk"

-ยักษ์เขียวก็มีหัวใจ-


+ถือเป็นหนังแอ็คชั่น-ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องหนึ่งของซัมเมอร์นี้ที่ผู้เขียนรอคอย นับตั้งแต่วันแรกที่ทราบข่าวว่าทีมผู้สร้างเลือก "เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน" มารับบทเป็นบรู๊ซ แบนเนอร์ . . การเลือกนอร์ตันมารับบทนำในหนัง "ซูเปอร์ฮีโร่" เช่นนี้ บอกได้เลยว่านั่นไม่ใช่การวัดรอยเท้าของเอริค บาน่า หรือเป็นการเดินซ้ำรอยที่เขาเคยทำไว้ใน The Hulk แต่อย่างใด แต่ทว่าเป็นการสร้างรอยเท้าใหม่ขึ้นใหม่ ในแบบฉบับของนักแสดง "แนวๆ" อย่างนอร์ตันนั่นเอง . . เพราะเอ็ดเวิร์ด นอร์ตันไม่เคยมีภาพลักษณ์ของการเป็นนักแสดงในหนังตลาดขายความบันเทิง ที่เน้นขายภาพความเป็นดารา หากแต่เป็นนักแสดงในหนังแนวที่เน้นขายฝีมือการแสดงเป็นหลัก . . .


+แต่ . . ก็อาจจะเป็นเช่นนั้น ตั้งแต่ . . . หลังจากสิ่งที่คริสเตียน เบลล์ทำไว้ใน Batman Begins , แม็ทท์ เดม่อน ใน The Bourne ทั้ง 3 ภาค , แดเนียล เคร็ก ใน Casino Royale , จอห์นนี่ เด็ปป์ในหนังชุด Pirate Of The Caribbean ทั้ง 3 ภาค และกับล่าสุด จากนักแสดงที่ไม่น่าจะกลายมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้เลยอย่าง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ก็ทำให้ Iron Man กลายมาเป็นที่สุดของหนังฮิตระเบิดระเบ้อ ในแบบฉบับของซูเปอร์ฮีโร่ที่ "มีสมอง" . . แถมรายหลังนี้ ก่อนหน้านี้ยังถูกมองว่าแทบจะหมดอนาคตในฮอลลีวู้ดไปแล้วด้วยซ้ำไป ทั้งจากปัญหาส่วนตัว และปัญหาในการทำงาน . . .


+ซึ่งสิ่งที่มีร่วมกัน อย่างชัดเจน และแข็งแรงของนักแสดงเหล่านี้ อย่างหนึ่งเลยที่ปฏิเสธไม่ได้ ก็คือความสามารถทางการแสดงในแบบของนักแสดง หรือมีความเป็น Actor มากกว่าที่จะมีความเป็นดารา หรือ Star นั่นเอง . . บางที นี่อาจจะเป็นวิวัฒนาการในแนวทางการทำหนังแนวฮีโร่ หรือซูเปอร์ฮีโร่ในศตวรรษนี้ของฮอลลีวู้ดไปแล้วก็เป็นได้ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับแฟนๆ ไม่ว่าจะเหมารวมถึงคอหนัง หรือคอคอมมิคส์อเมริกันฮีโร่ก็ตาม . . ส่วนว่าใครจะโชคดีมากน้อยแค่ไหน ในการมีโอกาสได้เแสดงความ "ละเอียด" ในการแสดง อันนี้ก็แล้วแต่จังหวะ และวาสนาของแต่ละคน ในการเลือกบทที่จะเล่นนั่นแล . . .


+The Incredible Hulk เวอร์ชั่นนี้ ไม่ใช่ภาคต่อของ The Hulk ฉบับที่อัง ลีเคยทำไว้แต่อย่างใด หากแต่เป็นเวอร์ชั่นที่สร้าง "ทับซ้อน" ของเวอร์ชั่นนั้นอีกที ในความหมายที่คล้ายคลึงกับการ
"ลบทิ้ง" เพื่อเริ่มต้นใหม่ เป็นการชุบชีวิตใหม่ให้กับหนังที่เป็นความหวัง ว่าจะกลายเป็นหนังภาคต่ออันทรงคุณค่าให้กับสตูดิโอ หลังจากล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง กับ The Hulk ฉบับแรก ทั้งในแง่ของการขาย และคำวิจารณ์ . . แม้กระทั่งกับชื่อหนัง จากที่เคยเป็นแค่ The Hulk ในเวอร์ชั่นของอัง ลี ก็กลับมาใช้ชื่อเดิมแบบเต็มๆ เหมือนเช่นที่เคยใช้มาในสมัยเป็นทีวีซีรีย์ว่า The Incredible Hulk . . .


+เห็นศัพท์ที่นิยมใช้กัน ในยุคคอมพิวเตอร์ เจอเนอเรชั่น อย่างยุคนี้ ว่าเป็นการ Reboot หนังแล้ว ก็น่าจะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น เพราะการ Reboot หมายความถึงการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเปิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเริ่มการปฏิบัติการครั้งใหม่ ซึ่งมักจะทำเพื่อแก้ไขปัญหา ในกรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์แฮ็งค์ หรือมีปัญหา . . .


+The Hulk ของอัง ลี ไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นความผิดพลาดในแง่ความสนุกบันเทิงของตัวหนัง ที่แม้แต่แฟนพันธุ์แท้ของอัง ลีเอง (ผู้เขียนก็หนึ่งในนั้นด้วยคนหนึ่ง) ก็ยังว่าหนังดู "ไม่สนุก" เอาซะเลย กับอีกอย่าง ที่ด้อยคุณภาพอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่ส่วนนี้ถือเป็นหัวใจของหนังไม่แพ้ส่วนอื่นเลยก็คือ เทคนิคพิเศษด้านภาพในการสร้างกราฟิคของยักษ์เขียว ที่ทำออกมาได้ แบบว่า
"อ่ะนะ"" ทั้งๆที่หนังใช้เงินลงทุนก็มากซะตั้งกว่า 100 ล้านเหรียญซะขนาดนั้น . . .

+ที่เหลือนอกจากนั้น The Hulk ก็ไม่ได้ดูเสียหายอะไรมากจนถึงขนาดต้องซ่อมแซมเสียใหม่ เพียงแต่ว่าหนังเรื่องนี้ ถ้าคิดจะเดินหน้าต่อไป และสร้างมูลค่าใหม่ให้กับหนัง บางครั้งการยอมถอยกลับมาหนึ่งก้าว เพื่อตั้งหลักใหม่ให้มั่นคงและแข็งแรง เป็นวิธีที่น่าจะดีกว่า และถูกต้องกว่า . . อย่างน้อย ก็ในเวลานี้ . .


+ในอนาคต ถ้า . . และเมื่อ . . The Incredible Hulk เวอร์ชั่นนี้กลายเป็นหนังภาคต่อที่ประสบความสำเร็จ และขึ้นหิ้งหนังภาคต่อสุดคลาสสิคเช่นเดียวกับหนังอย่าง Spider Man ของแซม ไรมี่ หรือ Batman ชุดใหม่ภายใต้การดูแลของคริสโตเฟอร์ โนแลน . . บางที อีกสักสิบปี หรือยี่สิบปีข้างหน้า The Hulk ฉบับของอัง ลี อาจจะกลายเป็นหนัง "คัลท์" ที่แฟนๆหนังชุดยักษ์เขียวต้องไปเสาะหามาดู เพื่อประกอบและเปรียบเทียบก็เป็นได้ . . และอาจจะเสียดายแทนสิ่งดีๆที่เหลืออยู่ในอีกหลายแง่มุมของหนัง ที่จะถูกถูกค้างไว้เช่นนั้น ตลอดกาล . . .


+เรื่องราวสำคัญของหนังชุดยักษ์เขียว ว่าด้วยเรื่องราวของ "อีกร่างหนึ่ง" ของตัวเอก "บรู๊ซ แบนเนอร์" นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม ที่เมื่อร่างกายของเขากลายเป็นอสูรร้าย "ไอ้ตัวเขียว" ผู้น่ากลัว และทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้น The Incredible Hulk ของผู้กำกับ "หลุยส์ เลแตร์ริเย่ร์" จึงไม่ทิ้งเหตุการณ์เริ่มต้นที่สำคัญนี้แต่อย่างใด บทหนังเล่าเรื่องเท้าความเหตุการณ์ความผิดพลาดในห้องทดลองในช่วงไตเติ้ลของหนังได้
อย่างฉลาด เป็นการใช้เวลาเกริ่นความก่อนที่สั้น กระชับ และได้ใจความของที่มาทั้งหมดได้น่าสนใจ . . .


+The Incredible Hulk เวอร์ชั่นนี้ ในฐานะหนังที่มีโจทย์ว่าต้องแก้ "ความไม่สนุก" ในภาพรวมของหนังฉบับแรกให้ได้ เลแตร์ริเย่ร์ ผู้กำกับหนุ่มชื่อดัง ชาวฝรั่งเศส เจ้าของงานฮิตอย่าง Transporter 2 และกำกับเจ็ต ลีใน Danny The Dog (หรือ Unleashed) จึงมาสานต่องานเพื่อขายความสนุก และเน้นความบันเทิงเป็นหลักสำคัญ โดยได้ แซ็ค เพนน์ ผู้กำกับร่วม/มือเขียนบท จาก X-Men : The Last Stand มาเป็นคนเขียนบทหนังให้ เอื้อให้เลแตร์ริเย่ร์ได้โชว์ฝีมือหลากหลายขึ้น ไล่ตั้งแต่แอ็คชั่นไปจนถึงดราม่า และโรแมนติค โดยไม่ลืมที่จะผ่อนคลายด้วมอารมณ์ขันอีกเล็กน้อยพอให้หนังไม่เครียด อย่างฉากที่น่ารักชวนอมยิ้มฉากหนึ่งในหนังก็คือ ฉากที่ท่านนายพล ตัวละครของวิลเลี่ยม เฮิร์ท ถามบลอนสกี้เรื่องอายุ ตรงนี้ผู้เขียนขำนะคะ เพราะแววตา
"มีเคือง" แว่บนึงของทิม รอธในฉากนั้น และการโต้ตอบของทั้งคู่นั้นสุดฮามากค่ะ โดยเฉพาะกับบรรดาคนเริ่มแก่ทั้งหลาย อาจจะชอบอกชอบใจมากกว่าใครเป็นพิเศษ (^ ^)


+มาว่ากันถึงฉากบู๊ที่ถือเป็นจุดขายของหนัง เลแตร์ริเย่ร์ก็ทำฉากแอ็คชั่นออกมาได้อย่างสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ และชวนลุ้นระทึกได้ตามโจทย์ คุ้มค่าสมราคาตั๋วหนัง ทั้งเมื่อตอนที่นอร์ตันเป็นบรู๊ซ แบนเนอร์ และในยามที่ฉากแอ็คชั่นทำลายล้างเป็นหน้าที่ของ เดอะ ฮัลค์-ไอ้ตัวเขียวก็ตาม (ออกเสียงว่า "ฮัลค์" นะคะ ไม่ใช่ "ฮัค") และที่ได้มาเกินคาด
สำหรับผู้เขียนก็คือ การที่บทหนังและผู้กำกับทำให้หนังมีด้านที่เป็นดราม่า และโรแมนติก (ก็ปนดราม่าอีกนั่นแหล่ะ) ผสมอยู่ ให้ออกมาได้อย่างละเมียดละไม รวมถึงฉากสะเทือนอารมณ์หลายๆฉากของหนัง เลแตร์ริเย่ร์ก็ยังทำออกมาได้ดี ซึ่งตรงนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับการแสดงของนักแสดงทั้งสอง และดนตรีประกอบของเคร็ก อาร์มสตรอง เจ้าของรางวัลบาฟต้า และลูกโลกทองคำจาก Moulin Rouge ที่ช่วยเสริม และทำให้ผู้ชมที่อ่อนไหวง่าย (อย่างผู้เขียน) น้ำตาไหลได้ . . .


+นางเอกสาว "ลิฟ ไทเลอร์" มีบางอย่างที่ละม้ายคล้ายคลึง และชวนให้นึกถึงเจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่ ผู้รับบทเป็น "เบ็ตตี้ รอสส์" ในฉบับของอัง ลี แต่ไทเลอร์ก็ดูเหมาะ และลงตัวกับบรู๊ซ แบนเนอร์ เวอร์ชั่นผอมบางของนอร์ตันมากทีเดียว ทั้งคู่ดูมีความเปราะบาง และหุ่นของนอร์ตันก็ผอมได้ใจ เข้ากับบทที่ต้องเป็นคนที่มีชีวิตอยู่กับการหลบหนีมาเป็นปีๆได้อย่างดีทีเดียว นอร์ตันดูผอม บอบบาง และก็ดูน่าสงสาร ชวนเห็นใจ ในขณะที่บาน่า กับคอนเนลลี่ออกจะดูเข้มแข็งเกินไปด้วยซ้ำ . .

+ส่วนการแสดงของทีมนักแสดงสมทบ ไม่ว่าจะเป็นทิม รอธ และวิลเลี่ยม เฮิร์ท ต่างก็ทำได้อย่างเด็ดขาด สมบทบาทที่ได้รับทั้งคู่ และทำให้ผู้เขียนอยากจะเห็นพวกเค้าอีกเยอะๆในหนังภาคต่อๆไป และที่เซอร์ไพร้ซ์สุดๆ ปิดท้ายหนังก็คือ การปรากฎตัวของแคแรคเตอร์สุดฮิต ดังระเบิดคนหนึ่งในหนังด้วย ซึ่งอาจจะเป็น "ซูเปอร์สปอยเลอร์" ทันที ถ้าพูดถึง ซึ่งก็คงต้องไปตามดูกันเองสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูค่ะ . . .


+มีฉากหนึ่งในหนัง ที่เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจะจะต่อหน้าผู้ชมของบรู๊ซ แบนเนอร์ เมื่อร่างของเขาค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นไอ้ตัวเขียวอย่างสมบูรณ์ และเปลี่ยนกลับมาเป็นร่างปกติอีกครั้ง . . นั่นเป็นการเขียนบทหนังที่รู้ใจแฟนพันธุ์แท้เหลือเกิน ตอบโจทย์อีกข้อที่แฟนการ์ตูนสงสัย และอยากเห็นมานานได้เป็นอย่างดี . . อีกฉากหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมากก็คือ ตอนที่เบ็ตตี้ถามบรู๊ซว่ามันเป็นยังไง ขณะที่ร่างกายเปลี่ยนแปลง นั่นอาจจะเป็นบทสนทนาเล็กๆระหว่างกันของทั้งคู่ คำถามของเธอก็เป็นคำถามเล็กๆ แต่กลับบอกถึงหัวใจ และความรักทั้งหมดที่เธอมีต่อเขา . . .

+การรับรู้ถึงความทุกข์ของคนที่เรารัก สำหรับผู้เขียน นั่นคือการ "แบ่งปัน" ที่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดทั้งหมดค่ะ . . .


-ไม่มีดาวให้ เพราะไม่ใช่รีวิวนะคะ-


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

+The Incredible Hulk Trailer+
http://www.youtube.com/watch?v=NWWzve8Z90s


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

+ในส่วนของ ตกผลึกความคิด จะพูดถึงแง่คิดดีๆ + ความประทับใจที่ได้จากหนังเรื่องนั้นค่ะ โดยจะเขียนลงสลับกับรีวิวค่ะ (เรื่องไหนน่าสนใจ จะนำมาเขียนเป็นตกผลึกค่ะ)


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

QUOTE
+ช่วยคอมเม้นต์ให้สักนิดนะคะ เพียงเพื่อ+
+ yoyo_55.gif เป็นกำลังใจให้กับผู้เขียน เพราะห้องมันเงียบเหลือเกินนะ . . กลัวผีหลอกจ้ะ yoyo_55.gif +


-ดูหนังให้สนุกนะคะ-

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1550.html ค่ะ

Edited by rbgel, 20 November 2009 - 07:07 PM.


#2 ~BusteR~

    You are not alone.

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3721 posts
  • Gender:Male
  • Interests:DGO BATTLE SYSTEM

Posted 18 October 2008 - 09:40 PM

เขียนได้ประทับใจครับ คืออ่านแล้วทำให้ผมนึกถึงฉากหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ขึ้นมาเลยครับ

ชอบมากครับ หนังเรื่องนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปดูในโรงหนังด้วย(ถึงแม้โรงที่ไปดูจะมีระบบภาพและเสี
ยงแย่มาก

ก็ตามเถอะ ก็บัตร 60 อะนะ) ตอนที่จะไปดู ผมยังไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ เพราะ รู้สึกฝังใจกับภาคก่อนหน้ามากๆ

(เทียบกันแล้ว ภาคแรกเนี่ย ผมว่าผมไปดูภาคที่เมื่อก่อนนู้น ที่ทำออกมาเป็นสามภาคน่ะครับ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึก

คนที่แสดงเป็น เจ้าตัวเขียว เค้าเอานักมวยปล้ำมาแสดงนั่นน่ะครับ ยังจะสนุกกว่าอีก เพราะช่วงนั้น ผมได้ดูจาก

ช่อง 3 เค้าเอามาฉาย ตอนปิดเทอม มั้งครับ คือมันยังคงประทับใจไม่หายเลยครับ yoyo_53.gif )


กับภาคนี้พอได้รู้แล้วรอบนึง ใจมันบอกไว้เลยว่า ต้องมีอีกรอบ แล้วต้องรอซื้อ DVD มาเก็บไว้อีก ที่เชียงราย

ก็มีมาจำหน่ายแล้วแต่ดันมีแบบ VCD ซะงั้น เซ็งเลยผม

#3 Brutal-Method

    เซียนเกม

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 6439 posts
  • Gender:Male

Posted 19 October 2008 - 12:59 PM

ให้คะแนนขัดใจอีกแระ

แว้กๆๆๆ

ไม่ใช่รีวิว

yoyo_77.gif

#4 Tatasaray

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 3

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1546 posts

Posted 19 October 2008 - 01:22 PM

ไม่ใช่ภาคต่อ แต่ถ้าไม่ดูภาคแรกของ อั้ง ลี มาก่อนนี่จะไม่รู้เรื่องเอาแน่ๆ

ไม่รู้สิครับ ความเห็นส่วนตัว ผมกลับมองว่า เป็นหนังที่ต่อเนื่องกับภาคแรกเอามากๆเลย
ไม่ว่าจะเป็นตอนเริ่มต้น ที่พระเอกพลัดถิ่นไป พิสูจน์ความจริงจากภาคแรก กลับมาหานางเอก พ่อนางเอกก็ยังไม่ค่อยชอบอยู่

...ภาคต่อเลยอ่ะ ผมว่านะ

ผมชอบภาค อั้ง ลี มากกว่า

ส่วนภาค Incredible นั้น
ผมไม่ค่อยชอบเนื้อเรื่องที่หักมุม มึนงง ไอ้ตอนที่ พระเอกโดดลงมาจาก ฮอ นั่นล่ะครับ

เห็นชอบหนังภาคต่อ ผมขอเชียร์ให้เขียนเรื่อง Star Wars : the Clone Wars นะครับ ฮึฮึ จะดูว่า ความเห็นจะตรงกันไหม


#5 Brutal-Method

    เซียนเกม

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 6439 posts
  • Gender:Male

Posted 19 October 2008 - 03:56 PM

ของอั้งลี่ น่าหลับมาก
เข้าใจว่าสไตล์ อั่งลี่
บทสนทนา เยอะแยะน่าเบื่อ
เข้าใจว่าเน้นดราม่าประเด็นจิตใจของ bruce
แต่หนัง HULK คนดูคงไม่ได้
อยากรู้ประเด็นจิตใจของ Bruce มากนักหรอก
ชอบแบบวินาศสันตะโรมากกว่า บ้าพลัง ซัดกันบ้านแตก ถนนแยก

ผมชอบหนังที่เคารพต่อตัวต้นฉบับ
และไม่ทำให้แฟนๆ คอมมิค ผิดหวัง

หนังเรื่องนี้จึงตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว
ดุสนุกสนาน ไม่ต้องติสแตกแบบของอั่งลี่

#6 nanva

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 2

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1211 posts
  • Gender:Not Telling

Posted 19 October 2008 - 11:15 PM

พี่ยักษ์เขียว(ตัวเล็กกว่าภาคแล้วอีก)เป็นอีกเรื่องที่เปลี่ยนตัวเอกอีกแล้ว(หวังว่า
ไม่บ่อยเท่า Batman หรอกนะ ถ้าในอนาคตจะมีภาคต่อไปน่ะ)ซึ่งน่าจะเป็นเช่นนั้น
ส่วน Liv Tyler นั้นตอนเล่น Armageddon เนี่ย สวยสุดเลย(ระยะห่างเรื่องนี้ราว 10ปี ได้มั้ง)แต่ก็ยัง OK อยู่ ถ้าใครชอบ Super Hero ก็น่าชอบหนังเรื่องนี้อยูมั่งแหละ ว่ามะ.. yoyo_01.gif