0
Hula Girls - สาวฮูล่า หัวใจฮีโร่
-ขยับแขน ขยับขา . . สวิงลีลา ให้หัวใจชุ่มชื่น-
-ขยับแขน ขยับขา . . สวิงลีลา ให้หัวใจชุ่มชื่น-
+ภาพยนตร์ขวัญใจมหาชน 4 ตุ๊กตาทองของญี่ปุ่น ดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และยังได้รับคัดเลือกให้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อนโน้น แสดงให้เห็นว่าหนังเรื่องนี้ "ไม่" ธรรมดา . . เครดิตที่น่าประทับใจของ Hula Girls อยู่ตรงที่หนังสะท้อนวิถีชีวิตของผู้คนที่ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง
ของยุคสมัยได้อย่างมีชั้นเชิง และน่าสนใจมากๆเลยทีเดียว . . .
+หนังสร้างจากเรื่องจริง โดยนำผู้ชมย้อนกลับไปสู่ปี 1965 ณ เมืองโตโฮกุ เมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ประชากรหาเลี้ยงชีพด้วยการทำเหมืองถ่านหิน ซึ่งพวกเขาเรียกกันว่าเพชรสีดำ แต่แล้วถ่านหินถูกทดแทนด้วยน้ำมัน . . และเป็นไปตามคาด เหมืองกำลังจะปิดกิจการ และชาวเมือง ชาวเหมืองจะต้องตกงาน แต่เทศบาล และเจ้าของเหมืองก็หาทางกอบกู้เมืองของพวกเขา นั่นคือการพัฒนาเมืองเล็กๆแห่งนี้ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยทำให้เมืองนี้เป็นฮาวายแห่งที่สอง . . และการสร้างเมืองใหม่นี่เองทำให้ชาวเหมืองส่วนหนึ่งมีงานทำในฐานะคนงานก่อสร้าง ส่วนแผนการสร้างนักเต้นระบำฮาวาย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ก็ช่วยสร้างงานให้กับ (ลูก) สาวชาวเหมืองเช่นกัน . . .
+ศูนย์กลางของเรื่องอยู่ตรงที่การก่อตั้งทีมนักเต้นระบำฮาวายรุ่นแรก "คิมิโกะ ยู" (ยู อาโกอิ) สาวน้อยน่าใส ลูกสาวชาวเหมืองที่พ่อเสียชีวิตในหน้าที่ ส่วนแม่และพี่ชายทำงานเหมือง ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นอะไรอื่นเลยนอกจากชาวเหมือง แต่ที่สมัครเป็นนักเต้นระบำฮาวาย ก็เพื่อเป็นเพื่อน เพื่อนสนิทของเธอผู้ซึ่งอยากจะเป็นนักเต้นระบำฮาวาย เพราะไม่อยากจะมีชีวิตเปื้อนฝุ่นถ่านหิน . . .
+ครูสาว "มาโดกะ ฮิรายาม่า" (ยาสึโกะ มัตสึยูกิ) อดีตนักเต้นระบำฮาวายแถวหน้า รับงานสร้างคณะนักเต้นระบำฮาวาย เพื่อหาเงินปลดหนี้ เหมือนกับที่เราเคยเห็นกันในหนังที่ว่าด้วยเรื่องของการเต้นระบำหลายเรื่อง . . ครูสาวขี้เมามีภาระหนี้ เริ่มต้นงานของเธอด้วยการสอนลูกศิษย์ที่ไม่เพียงไม่เคยรู้จักการเต้นระบำฮาวายมาก่อน
เท่านั้น แต่ยังไม่มีคุณสมบัติทางกายภาพที่จะเต้นระบำแบบซังกะตายอีกด้วย และเป็นไปตามสูตร ความสัมพันธ์ระหว่างครูและลูกศิษย์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นความผูกพันในที่สุด . . .
+ส่วนที่เดินคู่ไปกับบทเรียนการสอนเต้นรำ ก็คือความขัดแย้งทั้งในครอบครัวและในชุมชน ในระดับครอบครัวก็คือ พ่อและแม่หัวโบราณที่ไม่อยากให้ลูกสาวยึดอาชีพเต้นกินรำกิน ส่วนในระดับชุมชนก็คือความเปลี่ยนแปลงที่แยกชาวเหมืองออกเป็นสองกลุ่ม นั่นคือผู้ต่อต้าน และสนับสนุน . . คงไม่ต้องบอก เพราะน่าจะเดากันได้ว่าบทสรุปของหนังจะลงเอยอย่างไร . . .
+ต้องชื่นชมผู้กำกับ "ลี ซังอิล" ทีนำเสนอภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนเล็กๆ ที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีสไตล์ ชนิดแบบเดียวกับหนังญี่ปุ่นในกลุ่มที่เล่นกับอารมณ์ถวิลหาอดีตอย่าง Always : Sunset on The Third Steet และ The Village Album คือเดินเรื่องตามสูตร พล็อตไม่มีอะไรแปลกใหม่เหนือการคาดเดา ทว่ามีชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง โดยไม่ได้ "พยายาม" บีบอารมณ์สะเทือนใจมากเสียจนฟูมฟายน่ารำคาญ หลายต่อหลายฉากเคยผ่านตามาแล้วแทบทั้งนั้น แต่จังหวะที่แม่นยำ และการแสดงที่เป็นธรรมชาติของนักแสดง ทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร ที่ต่างก็มีปมในใจ ต้องผ่านการเรียนรู้ ผ่านอุปสรรค พูดง่ายๆก็คือ ต่างดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง และชุมชน . . .
+ยู อาโออิ ในบทคิมิโกะ ตัวแทนของเด็กสาวที่เหมือนกับเด็กส่วนใหญ่ คือดำเนินชีวิตไปตามกรอบที่พ่อแม่ขีดไว้ให้ ซึ่งก็ดำเนินชีวิตตามกรอบที่ขีดไว้แล้วอีกต่อหนึ่งเช่นกัน . . หากกิจการเหมืองมิได้กำลังจะปิด ตัวเธอเองก็คงลงเอยเหมือนแม่ การเลือกเส้นทางชีวิตที่ต่างออกไปของเธอเหมือนกับนางเอกในหนังเรื่องอื่นๆอีก
หลายเรื่อง คือค้นพบความสามารถที่แฝงเร้นของตนเอง เพราะหวังจะช่วยให้ฝันของเพื่อนเป็นจริง และเมื่อพบแล้ว เธอก็กล้าพอที่จะเดินไปตามเส้นทางที่เธอเลือกเองแม้แม่จะไม่เห็นด้วย . . .
+การแสดงของอาโออิทำให้ผู้ชมอินไปกับความเป็นมาและเป็นไปของตัวละครของเธอได้อย่าง
สนิทใจ และสองฉากที่น่าจดจำก็คือ การสื่อสารภาษากายจากท่าเต้นระบำฮาวาย เพื่อสื่อสารความรักความผูกพันกับครูสาวที่กำลังจะจากไป ที่สถานีรถไฟ และฉากการเต้นเดี่ยวในรอบปฐมทัศน์ . . ฉากแรกซาบซึ้ง และกินใจในระดับที่น่าจะทำให้หลายคนน้ำตาซึม ส่วนฉากหลังต้องบอกว่าคุ้มค่า หลังจากที่ตามเฝ้าดู (พวก) เธอมาตั้งแต่ต้น . . .
+ที่สุดยอดอีกคน ก็คือ "ยาสึโกะ มัตสึยูกิ" ในบทครูสาว ที่ขึ้นจอในมาดที่ดูดีมีรสนิยม และน่าดึงดูดใจเหลือเกิน ซึ่ง "ให้" การแสดงในระดับที่มีรางวัลตุ๊กตาทองดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยมเป็นตราประกันคุณภาพ ก็คงไม่ต้องกังขาถึงฝีมือของเธอแต่อย่างใด . . ในส่วนของดาราสมทบคนอื่นๆ ต่างก็ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี แต่ละคนมีบุคลิกแตกต่าง ที่สะท้อนให้เห็นถึงการปะทะกันระหว่างค่านิยมแบบเดิมๆ มุมมองที่มีต่ออาชีพเต้นกินรำกิน การเลี้ยงลูกในแบบเก่าที่เน้นเรื่องการเชื่อฟัง การอยู่ในโอวาทของพ่อแม่ รวมถึงรูปแบบสังคมดั้งเดิมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ และหนึ่งในฉากสะเทือนอารมณ์ ที่เกี่ยวเนื่องกับค่านิยมทั้งสามเรื่องนี้ นำเสนอผ่านเรื่องของเพื่อนสนิทของคิมิโกะ ผู้เป็นเจ้าของฝันที่ไม่สามารถไปถึงฝั่งฝัน ได้อย่าง "เอาตาย" เลยทีเดียว . . .
]+Hula Girls เป็นหนึ่งในหนังกลุ่มสร้างแรงบันดาลใจ ที่น่าจะทำให้คุณๆที่มีอารมณ์อ่อนไหว เกิดอาการซาบซึ้งใจได้ในระดับเดียวกับที่เคยซึ้งกันมาแล้วจาก Always : Sunset on The Third Steet และ The Village Album อย่างแน่นอน . . เว้ากันซื่อๆแบบจริงใจไม่มีอ้อมค้อม ก็คือ นี่คือหนึ่งหนังดีที่คอหนังไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งค่ะ . . .
+ให้ 3 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว)
+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1317.html ค่ะ
QUOTE
+ช่วยคอมเม้นต์ให้สักนิดนะคะ เพียงเพื่อ+
+ เป็นกำลังใจให้กับผู้เขียน เพราะห้องมันเงียบเหลือเกินนะ . . กลัวผีหลอกจ้ะ +
เป็นกำลังใจให้กับผู้เขียน เพราะห้องมันเงียบเหลือเกินนะ . . กลัวผีหลอกจ้ะ ++อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ
QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ
+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ
+ดูหนังให้สนุกนะคะ+
Edited by rbgel, 23 November 2009 - 04:55 PM.
Moderator
?
