`

Jump to content





รีวิวหนัง Sunshine - ซันไชน์ ยุทธการสยบพระอาทิตย์


2 replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 12 September 2008 - 12:55 AM

Sunshine - ซันไชน์ ยุทธการสยบพระอาทิตย์


"Dark days are coming . . If the sun dies, so do we"

+ผลงานหนังไซไฟ-ทริลเลอร์เรื่องล่าสุดของ "แดนนี่ บอยล์" ผู้กำกับผู้ซึ่งสร้างชื่อมาจาก Trainspotting , The Beach และ 28 Days Later ซึ่งกลับมาครั้งนี้ บอยล์ไม่ได้เล่นกับการเชิดชูความเสียสละของเหล่าผู้กล้า เพื่อปกป้องมวลมนุษยชาติ หากแต่เน้นประเด็นที่ว่าด้วยการประลองกำลังกันระหว่างวิทยาศาสตร์ กับพระเจ้าได้อย่างน่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย . . .

+หนังนำผู้ชมมุ่งสู่เหตุการณ์ในโลกอนาคต ปี 2057 ที่โลกตกอยู่ในยุคน้ำแข็ง ซึ่งไม่ใช่เพราะภาวะโลกร้อนที่ทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง แต่เพราะดวงอาทิตย์กำลังจะอับแสง และเพื่อช่วยให้โลกรอดพ้นจากหายนะ . . ความหวังทั้ง 8 ชีวิต จึงเดินทางสู่ดวงอาทิตย์ด้วยยานอวกาศอิคารัส 2 เพื่อต่อชะตาให้กับดวงอาทิตย์ . . .


+ผู้กำกับบอยล์ เปิดช่วงแรกของหนัง ที่ว่ากันถึงสภาพจิต และความสัมพันธ์ของลูกเรือยานอิคารัส 2 อันประกอบไปด้วย กับตันคาเนดะ (ฮิโรยูกิ ซานาดะ) , ฮาร์วีย์ (ทรอย การิตี้) เจ้าหน้าที่สื่อสาร และรองกัปตันยาน , เมซ (คริส อีแวนส์) วิศวกรหนุ่มประจำยาน , เชิร์ล (คลิฟฟ์ เคอร์ติส) แพทย์ประจำยาน , เทรย์ (เบเนดิดต์ หว่อง) ต้นหนประจำยาน , โคราซอน (มิเชลล์ โหย่ว) นักชีววิทยาผู้ดูแลสวนผลิตออกซิเจน , เคสซีย์ (โรส เบิร์น) ผู้ควบคุมยาน และพระเอกของเรื่อง เคปปา (ชิลเลี่ยน เมอร์ฟีย์) นักฟิสิกส์ผู้มีหน้าที่สำคัญ เพราะเป็นเพียงคนเดียวที่รู้ระบบการทำงานของระเบิดที่จะรีสตาร์ทดวงอาทิตย์ ที่อยู่ในภาวะเคียดจากการเดินทาง และการอยู่ในพื้นที่อันจำกัด รวมไปจนถึงกลัวว่าพวกเขาจะมีชะตากรรมเหมือนยานอิคารัส 1 ที่หายสาปสูญไปในอวกาศเมื่อ 7 ปีก่อน . . .

+แต่แล้ว . . พวกเขาก็ค้นพบสัญญาณขอความช่วยเหลือจากอิคารัส 1 และเป็นไปตามคาด พวกเขาเปลี่ยนเส้นทาง มุ่งหน้าสู่อิคารัส 1 เหตุผลหาใช่เพื่อช่วยชีวิตลูกเรือที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ลูกระเบิดอีกลูกที่เหลืออยู่ น่าจะเพิ่มโอกาสในการต่อชะตาให้กับดวงอาทิตย์ได้มากขึ้น . . .


+มาถึงตรงนี้ หลายท่านคงจะเดากันออก ว่าการเปลี่ยนเส้นทางก็คือจุดพลิกผันที่ก่อให้เกิดวิกฤติกับยาน แต่ก็เหมือนกับหนังที่ว่ากันด้วยภารกิจกู้โลกทั่วไป คือผู้ชมไม่ต้องลุ้นว่าภารกิจจะสำเร็จหรือไม่!? หากแต่ต้องลุ้นว่าลูกเรือทั้ง 8 ที่ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญมา คนไหนจะตายก่อน!? และที่เป็นปริศนาสำคัญของหนังแนวนี้ก็คือ ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังยุทธการสยบดวงอาทิตย์ . . และด้วยเหตุอันใดจึงพยายามทำให้อิคารัส 2 ที่เป็นความหวังสุดท้ายของมวลมนุษยชาติ ต้องล้มเหลวเช่นเดียวกับอิคารัส 1 . . .


+บทหนังของ "อเล็กซ์ การ์แลนด์" เปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจ แทนที่จะนำเสนอภาพของโลกในยุคน้ำแข็ง กลับเลือกเปิดเรื่องด้วยภาพของดวงอาทิตย์ และสภาพจิต ความสัมพันธ์ของลูกเรือ โดยมีเคปปาและเมซเป็นคู่กัดประจำยาน ส่วนอีก 6 คนที่เหลือคอยปรามเป็นกรรมการห้ามทัพ ที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้น จริงจังด้วยพฤติกรรมของลูกเรือแต่ละคนยามตกอยู่ในภาวะวิกฤติ ซึ่งเป็นตัวแปรที่เผยธาตุแท้ของแต่ละคนออกมา และที่ทำให้เรื่องจริงจังมากขึ้นไปอีก ก็คือเงื่อนปมอันชวนให้สงสัยว่าระหว่างลูกเรือคนใดคนหนึ่ง กับสิ่งมีชีวิตในอวกาศ . . ใครหรืออะไรอันแน่!? ที่พยายามทำให้ภารกิจครั้งนี้ล้มเหลว . . .


+ชิลเลี่ยน เมอร์ฟีย์ หนุ่มไอริชตาสวย รับบทเป็นเคปปา พระเอกผู้เป็นศูนย์กลางของเรื่อง ขึ้นจอในมาดเดียวกับพระเอกหนังในแนวนี้ทั่วไป ที่อยู่ในกลุ่มพระเอกจำเป็น ที่กลายเป็นวีรบุรุษเพราะสถานการณ์ . . จิลเลี่ยน เมอร์ฟีย์ทำให้ตัวละครตัวนี้ดูมีมิติ มีสัมผัสทางอารมณ์ที่ผู้ชมจับต้องได้มากที่สุด ด้วยฝีมือการแสดงที่พิสูจน์มาแล้วใน 28 Days Later และ Red Eyes . . ทำให้ผู้ชมอดไม่ได้ที่จะร่วมลุ้นไปกับเรื่องราวที่ดำเนินไปตามสูตรสำเร็จของหนังไซไฟ ที่เหล่าคอหนังคุ้นเคยในแบบที่เดาเรื่องได้แบบฉากต่อฉาก . . .


+แม้ชิลเลี่ยน เมอร์ฟีย์จะเป็นพระเอก แต่สำหรับบ้านเรา ดาราที่นำมาเป็นจุดขายเรียกความสนใจ กลับเป็น "คริส อีแวนส์" ดาราหนุ่มผู้เป็นที่รู้จักจากหนัง
ซุปเปอร์ฮีโร่ อย่าง Fantastic 4 มารับบทเป็นเมซ พระรองของเรื่อง . . คริสปรากฎตัวในฉากแรกด้วย (วิก) ผม และหนวดเครารุงรัง ในสภาพเหมือนเป็นคู่แฝดทางจิตวิญญาณของเบน
สติลเลอร์ใน Dodge Ball ได้ทันที ซึ่งโชคดีมากที่หลังจากผ่านฉากแรกมา เขากลับไปสู่ทรงสกินเฮด แบบที่เราคุ้นเคย ส่วนฝีมือการแสดง ถือได้ว่าคงเส้นคงวาในมาตรฐานเดียวกับที่เห็นกันจาก Fantastic 4 . . .


+ทรอย การิตี้ ในบทฮาร์วีย์ เป็นตัวละครที่เผยด้านมืดที่น่าชังออกมามากที่สุด แต่ก็เหมือนกับคลิฟฟ์ เคอร์ติส และเบเนดิคต์ หว่อง เพราะหน้าตาที่ไม่น่า
สนใจ บวกกับการแสดงที่ไม่เร้าอารมณ์ จึงทำให้พวกเขากลายเป็นเพียงดาราสมทบที่ผู้ชมไม่รู้สึกผูกพันมากพอที่จะจดจำวีรกรรม
ของพวกเขา ซึ่งต่างจากฮิโรยูกิ ซานาดะ ในบทกัปตันคาเนดะ แม้จะมีบทน้อยที่สุด แต่ด้วยรัศมีของดาราผู้มากฝีมือ ซึ่งสามารถให้ภาพของผู้มีอำนาจ หน้าตา และมาดเท่ของเขา เชื่อได้ว่า
แคแรคเตอร์ตัวนี้เป็นตัวละครที่ผู้ชม โดยเฉพาะสาวๆไม่อยากให้ตายมากที่สุดตัวหนึ่งแน่นอน . . .

+สำหรับสองสาวอย่างมิเชลล์ โหย่ว เจ้าป้ามาม่าซังจาก Memory Of Geisha และ The Mummy 3 ในบทโคราซอน และโรส เบิร์นจาก Troy ในบทเคสซีย์ ก็เหมือนกับดาราสาวทั่วไปในหนังแนวนี้ เป็นเพียงตัวประกอบธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่น และผู้ชมพร้อมจะลืมเธอทันทีที่เดินออกจากโรง . . .


+งานในส่วนของเทคนิคพิเศษ ยังคงรักษามาตรฐานงานสร้างได้ไม่ด้อยไปกว่าหนังไซไฟ ที่ว่าด้วยการผจญภัยในอวกาศทั้งหลายทั่วไป และสำหรับฉากแอ็กชั่นก็ยังคงเดินไปตามสูตรสำเร็จหนังในแนวนี้ นั่นคือมีการเดินออกนอกยาน , ลอยคว้างอยู่กลางอวกาศ , กระโดดข้ามยาน , ระเบิดยาน รวมไปจนถึงวิ่งไล่ล่ากันในยาน Sunshine ก็ยังเก็บมาได้ครบ และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับหนังแนวนี้ก็คือ บรรดาตัวประหลาดนั่นเอง!!!

+แดนนี่ บอยล์คุมโทนหนังในส่วนที่เป็นดราม่าได้ดี โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างลูกเรือ ทว่ากลับเสียศูนย์นิดๆในช่วงหลังของเรื่อง ทั้งในส่วนที่ว่าด้วยที่มาที่ไปของสัตว์ประหลาด และการดิ้นรนของเคปปา ที่พยายามต่อชะตาให้กับดวงอาทิตย์ ซึ่งอาจจะทำให้บางคนถึงกับงง กับการกระโดดไปแต่ไม่มีกระโดดมาในช่วงท้ายของเรื่องเป็นอย่างยิ่ง . . .


+ส่วนประเด็นเรื่องวิทยาศาสตร์กับพระเจ้า ที่แดนนี่ บอยล์ ผู้กำกับบอกว่าแก่นของเรื่องอยู่ที่ความยโสของมนุษย์ ที่คิดว่าตนสามารถเอาชนะธรรมชาติได้ ซึ่งอาจจะตีความต่อไปได้ว่าเป็นความตาย ต่างถูกนำเสนอออกมาอย่างคลุมเคลือ จนกลายเป็นอาการทางจิตของคนที่ถูกจำกัดอยู่ในที่แคบๆ และด้วยบทสรุปของหนังที่ลงเอยด้วยชัยชนะของมนุษย์ ก็ทำให้ Sunshine จัดอยู่ในกลุ่มหนังเชิดชูวีรบุรุษ ผู้เสียสละชีวิตเพื่อกู้วิกฤติโลกธรรมดาๆ เหมือนที่เคยผ่านตามาอีกเรื่องหนึ่งค่ะ . . .

+ให้ 2 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) yoyo_55.gif yoyo_55.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1230.html ค่ะ


QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 24 November 2009 - 05:53 PM.


#2 Brutal-Method

    เซียนเกม

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 6439 posts
  • Gender:Male

Posted 12 September 2008 - 02:39 AM

ว่าจะดูหลายทีแล้วครับ
แต่ไม่มีเวลาซักที

อยากดูเพราะ แดนนี่ บอย เลยนะนี่

เด๊่ยวจะหาเวลาไปดูให้ได้ครับ

รีวิวได้ยาวเช่นเดิม yoyo_37.gif

#3 kem

    BoA BoA BoA

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 8120 posts
  • Gender:Male
  • Location:BoA's Heart
  • Interests:BoA AKB48 MorningMusume

Posted 12 September 2008 - 03:21 PM

เรื่องนี้ตอนดูตัวอย่างผมชอบอยากดูมากเลยนะ
แต่พอดูๆไปแล้วรู้สึกเฉยๆ ความสนุกมันลดลง
โดยเฉพาะตอนตัวร้ายโผล่ มันดูไม่มีเหตุผลเลย