ขอน้อมรับใช้เสนอตัวเป็นสายข่าวเรื่องของกินให้เพื่อนๆนะครับ
ตัวผมเองโชคดีที่มีโอกาสได้กินของอร่อยมาหลายที่เหมือนกันเลย
ขออาสาเป็นไกด์เพื่อที่จะพาเพือ่นๆไปหาของอร่อยกินกัน..............
Tonkatsu ทงคัตซึ หมูชุบเกล็ดขนมปังทอด
จัดเป็นอาหารญี่ปุ่นกลุ่มที่ Popular มาก ไปที่ใหนในญี่ปุ่นก็จะมีร้าน ทงคัตสึ โดยเฉพาะ ทั้งร้านจะขายแต่ หมูชุบเกล็ดขนมปังทอด และ อาจจะมี กุ้งทอดอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่อาหารหลัก
ทงคัตซึ จัดเป็นอาหารรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น โดยเริ่มมีเมื่อปี 1930 ตามตำนานเล่ากันมาว่า นักศีกษาที่มหาวิทยาลัยโตเกียวเป็นคนเริ่มนำหมูมาชุบเกล็ดขนมปังทอดแล้วทานกับซอส Warchestershire (เดาว่าคงเป็นของ Lee&Perrin) ปรากฎว่าอร่อยมาก ทุกคนชอบ ทงคัตซึเลยแพร่หลายในญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคนั้นมา
ทงคัตซึจะใช้หมูจาก 2 ประเภท คือ สันในหมู (ฮิเร) และ สันนอกหมู (โรสุ) หมูสันในก็จะไม่มีใขมัน ส่วนหมูสันนอกก็จะมีใขมันแทรกอยู่ทำให้เนื้อนิ่มกว่า
นอกจากนั้น คนญี่ปุ่นก็จะมีพันธ์หมูอีก โดยหมูที่มาทำทงคัตซึที่มีชื่อเสียง จะต้องเป็น หมูดำ มาจากจังหวัด Kagoshima ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น
ที่ กทม. บ้านเรา ทงคัตซึ ก็จะมีในเมนูร้านอาหารญี่ปุ่น ทั่วๆไป รวมกับอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ ในช่วงประมาณปี 2547 ก็เริ่มมีชาวญี่ปุ่นอพยพมาอยู่ประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้นร้านอาหารญี่ปุ่นก็มีเปิดมากขึ้น เพื่อรองรับชาวญี่ปุ่น
ดังนั้น จึงมี ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ขาย ทงคัตสึ เป็นอาหารหลัก โดยมีอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ เป็นตัวประกอบ
วันนี้เราจะมาเน้นๆกันกับทงคัตสึของทั้ง 2 ร้านนั้นคือ Misato กับ Beku ที่ว่าเป็นทงคัตสึที่อร่อยที่สุดกันนะครับ......
ทงคัตสึที่อร่อยต้องเป็นเนื้อหมูที่มีเนื้อนุ่ม ความกรอบของแป้งนั้นต้องบางๆ กรุบกรอบ ไม่อมน้ำมัน มาพร้อมกับน้ำจิ้มรสหวานเค็มกำลังดี....
เสริฟพร้อมกับกะกล่ำปรีสดๆกรอบๆ.....
กับมะเขือเทศฝานบางๆ.....
ร้านทั้ง 2 ร้านนี้เป็นร้านดังและเด่นชัดว่า ทงคัตสึอร่อยมาก เป็นร้านที่บอกกันปากต่อปาก โดยผ่าน blog ผมซึ่งโชคดีได้มีโอกาศไปชิมทงคัตสึของทั้ง 2 ร้านนี้
เรามาเริ่มเปิดจานเด็ดกันเลยดีกว่า
ตอนแรกที่ผมอาสามาเป็น Reporter ผมตั้งใจจะเปิดฉากด้วยร้าน Beku ครับแต่ก็มีคนรีวิวมาแล้วเลยไม่อยากจะรีวิวซ้ำผมเลยมีความคิดว่า งั้นเปรียบเทียบดีกว่าเพราะอีกร้านหนึ่งนั้นคือ Misato ก็ดังทงคัตสึเหมือนกัน
ร้าน Beku เป็นร้านแนวญี่ปุ่นเล็กๆ บรรยากาศญี่ปุ่นมาก มีโต๊ะอยู่ประมาณ 3-4 โต๊ะเท่านั้นนอกนั้นเป็นที่นั่งหน้าบาร์ ร้านนี้เน้นขายทงคัตสึโดยเฉพาะเลยครับ มีให้เลือกทั้ง สันนอก สันใน ซึ่งผมก็ถามที่ร้านเลยครับว่าคนส่วนใหญ่สั่งอะไรกัน ทางร้านได้แนะนำสันนอกซึ่งเป็นเนื้อติดมันมาให้ครับผม ซึ่งผมก็ชอบอยู่แล้วครับเนื้อติดมันนั้นมันจะมีความนุ่มละมุนลิ้น
แน่นอนครับว่าความอร่อยนั้นต้องแลกมากับความอ้วน........
ร้าน Beku ขายหมูทอดแยกต่างหากนะครับ ราคาอยู่ประมาณ 200-250 แต่ใหญ่ได้ใจแน่นอนครับ รับรองว่าอิ่มอร่อยถึงพรุ่งนี้แน่นอน
ส่วนชุดข้าวนั้นจะแยกเป็น 2 ชุดครับ ชุดเล็ก 80 บาท กับ ชุดใหญ่ 120 บาท (จะต่างกันตรงมีกลับแกล้มมาให้ครับมากหรือน้อย ซึ่งสามารถเติมได้ทุกอย่างไม่อั้นครับผม)
ส่วนซอสนอกจากซอสปกติที่ต้องบดงากับมือเองแล้ว ยังมีซอส of the day ซึ่งต้องจ่ายเงินเพิ่ม 50 บาทครับ
ผมเลยจัดแจงสั่งซะ เนื้อสันนอก+ชุดใหญ่+ซอส of the day
ถึงหน้าร้านหมูทอดร้านอร่อย
บรรยากาศในร้าน จะมีโต๊ะอยู่แค่ 4 โต๊ะ และเคาร์เตอร์บาร์อย่างที่เห็น ร้านเล็กมากแต่คนแน่นตลอด ขนาดวันธรรมดา ยังต้องรอคิวเป็น 1/2 ชั่วโมง
บนโต๊ะจะมี 4 สิ่งนี้เท่านั้นค่ะ การะดาษ ไม้จิ้ม น้ำจิ้มหมู แล้วก็น้ำราดผักสลัด
ก่อนอาหารมาถ้วยนี้ก็มาก่อนเลย งง เอ่อ ให้ตำ ชิมิ ได้เลย เป็นงากับที่ตำครับ
แล้วถาดชุดข้าว ซุป เครื่องเคียงก็มาเสิร์ฟ ไม่ต้องให้รอเลย ชุดนี้สามารถเติมได้ไม่อั้น ย้ำ ไม่อั้น มีอะไรบ้างบอกไม่ถูก ดูกันเอาเองนะ แต่ว่าอร่อยมากเลย
สันนอกไส้บ๊วย เป็นชิ้นยาวๆ ติดมัน เนื้อนุ่มชุ่มๆ แอบเปรี้ยวที่ไส้นิดๆ แต่กลมกล่อมกะลังดี แต่ถ้าใครไปครั้งแรกขอให้ไปลองสันนอกธรรมดาครับ
สันใน เป็นชิ้นกลมๆรีๆ ไม่ติดมัน เหมาะกับคนที่กลัวอ้วน แต่ซัดไปจนเกลี้ยงนี่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้
#เนื้อหมูทอดได้แบบว่ากรอบนอก นุ่มใน และไม่อมน้ำมัน ทำได้อย่างไรนี่#
แล้วนี้คือที่อยู่ครับไปกินกันดีไหม 55+ ร้านนี้หยุดทุกวันพุธนะครับ
จุดหมายเราคราวนี้คือร้านหมูทอด ทงคัตสึที่ ได้รับคำยืนยันจากชาวญี่ปุ่นหลายคนว่า อร่อยที่สุดและมาตราฐานเดียวกับที่ญี่ปุ่น นั่นคือ มิซาโตะ ครับ
มิซาโตะ ตั้งอยู่ที่ตึกชาญอิสสระ 1ครับ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 ถัดจากโรบินสันมา ถ้ามาจากถนนสาทร ก็ตรงมาบนถนนพระราม4 ผ่านแยกสีลม แล้วชิดซ้ายไว้ ก่อนถึง 4แยกถัดไป ตึกจะอยู่ซ้ายมือครับ
พอเดินไปถึงร้านผมก็ถามพนักงานทันที ที่นี้ดังทงคัตสึใช่ไหมครับ (เพื่อเช็คให้ชัวร์ว่าดังจริงไหม) น้องเขาก็บอกว่าใช่ ผมเลยจัดแจงสั่ง สันนอก Size L มูลค่า 300 บาทครับ ถ้าจำไม่ผิด size M เนี่ยจะ 250 บาท
ที่ร้านนี้ก็จะคล้ายๆกับร้าน Beku นั้นคือมีทั้ง สันนอก และ สันใน ส่วนผมคงติดมัน เลยต้องสั่งสันนอกครับผม
หน้าร้านครับ พอเดินเข้าตึกไปก็จะเจอร้านอยู่ข้างหน้าเลยครับผม
ร้านมีสองชั้น ชั้นแรก เป็น เคาเตอร์นั่งสั่งกับเชฟได้เลย และก็มีแยกเป็นโต๊ะๆด้วย
ชุดหมูทอด Toku-Rose ขนาด M ถ้าสั่งขนาด L คงต้องขอห่อกลับบ้านแน่
อูยเดินพุงกางลงจากห้อง ที่เคาท์เตอร์เก็บเงินมีลายเซ็นต์สาวๆคนดังพร้อมรูปถ่ายคู่กับ มิสเตอร์ มิซาโตะ ที่เห็นก็มี น้องโดนัท มนัสนันท์ และ น้องแบม จนิสตา
หลังจากกินเสร็จก็จะมีชา-กาแฟ และผลไม้ มาให้กินตบท้ายความอิ่ม (อยากจะบอกว่ากินไม่หมดครับ เยอะจริงๆ)
ร้าน Misato จะเป็นภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น จึงมีเมนูอื่นๆอีก เหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป ซึ่งผมไม่ได้สั่งเลยไม่สามารถรีวิวให้เพื่อนๆได้ และที่นี้สาเกกับ โชวจูนั้นเยอะมาก มีคนญี่ปุ่นมากินสาเกและฝากสาเกไว้เยอะมากๆครับ เหมือนร้านเหล้าเลย คาดว่าไปตอนกลางคืนคงสนุกแน่นอนครับผม
มาถึงตอนให้คะแนน ผมจะขอให้คะแนนเฉพาะ ชุดทงคัตสึ เท่านั้นนะครับ
MISATO
ความอร่อย 9/10
บรรยากาศ 9/10
ราคา 10/10
รวม 9.3/10
BEKU
ความอร่อย 10/10
บรรยากาศ 10/10
ราคา 10/10
รวม 10/10
Beku ก็เฉือนชนะไปครับผมด้วยเหตุผล(ส่วนตัวล้วนๆครับ) ที่ว่าเนื้อหมูนั้นขอบอกว่าอร่อยเท่ากันเลยครับ ความกรอบ ความนุ่มของเนื้อหมู (ถึงแม้รูปของ misato) อาจจะไม่สวย แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลยครับ แต่ที่เฉือนกันจริงๆ คือซอสครับ เนื่องจากว่าที่ร้าน Beku เราต้องบดงา ทำให้น้ำซอสมีกลิ่นที่หอมหวานมาก พร้อมกับรสชาติที่ไม่หวานเกินไป
ในส่วนของบรรยากาศนั้น ญี่ปุ่นทั้งคู่เลยครับ แต่โดยส่วนตัวผม ผมชอบร้านเล็กๆ ที่ดูเป็นกันเองและอบอุ่นมากกว่าครับ
ในด้านของราคา 2 ร้านนี้ราคาพอๆกันครับ Beku อาจจะแพงกว่าถ้าเราสังชุดใหญ่
แต่นั้นก็ไม่สำคัญเท่ากับรสชาติที่เราได้ลิ้มลองครับผม..............
คราวหน้าจะมารีวิวบุฟเฟต์ กัน 2 ร้านติดๆเลยครับ ยาคินิคุ กับ ปลาดิบแสนอร่อย
ปล.ข้อความบางตอนกับข้อที่ความเกี่ยวกับความเป็นมาของ ทงคัตสึ ขอยกเครดิตให้กับ blogang ของคุณ swin ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลมาให้ ส่วนรูปภาพก็ยังเป็นของคนอื่นอยู่ดี เพราะยังไม่มีเงินไปซื้อกล้อง digital ครับผม
Edited by ayanami, 19 June 2008 - 03:29 PM.