0
ตกผลึกความคิด และเก็บความประทับใจจากหนัง
"House Of Flying Daggers - จอมใจบ้านมีดบิน"
"House Of Flying Daggers - จอมใจบ้านมีดบิน"
-สิ่งใดจะสำคัญกว่ากันระหว่าง "หน้าที่" และ "ความรัก"-
+หนังแอ็คชั่นกำลังภายในเรื่องที่ 2 ของจาง อี้โหมว หลังจากส่งกระบี่แรกอย่าง Hero ขึ้นจออย่างสวยงามและคมกริบ . .
+จาก 4 ใน Hero มาใน House Of Flying Daggers มีเพียง 3 . . . เรื่องราวรักสามเส้าของ 1 หญิง 2 ชาย ในช่วงเสื่อมถอยของราชวงศ์ถัง . . ชายหนึ่งรักและรอคอยเธอมานานถึงสามปี อีกชายหนึ่งนั้น เธอเพิ่งรู้จักและร่วมเดินทางฝ่าอันตรายด้วยเพียงสามวัน . . เสี่ยวเม่ย (จางซิยี่) นางรำตาบอดในซ่องนางโลม กับสองมือปราบ เหลียว (หลิวเต๋อหัว) และจิน (ทาเคชิ คาเนะชิโร่)
+เมื่อสงสัยว่าเม่ยเป็นสมาชิกของขบวนการใต้ดินอย่าง "บ้านมีดบิน" เหลียวจึงให้จินปลอมตัวเข้าไปสืบหาความจริงเกี่ยวกับนางรำคนนี้ และความจริงก็เปิดเผยว่าเธอเป็นหนึ่งในพวกบ้านมีดบินจริง เหลียวจับตัวเธอไว้ได้ . . .
+เหลียววางแผนให้จินช่วยเม่ยหนีออกจากคุก และใช้เธอเป็นตัวล่อ เพื่อ "ขยายผล" ในการจับกุมให้ถึงตัวหัวหน้าใหญ่ และกวาดล้างบ้านมีดบิน จินบอกเม่ยว่าเขาชื่อ "สายลม" หนุ่มเจ้าสำราญคนเดียวกับที่เข้าไปหาความสุขในซ่องนางโลม ชั่วเวลาไม่กี่วันระหว่างหลบหนีจากการตามล่าของทหาร ทั้งคู่ร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันจนแทบเอาชีวิตไม่รอด และแล้วความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้น . . .
+เรื่องราวของ House Of Flying Daggers ธรรมดาขนาดนี้ซะที่ไหน เพราะตัวละครต่างก็มีความลับ และต่างก็มีเรื่องปิดบังอำพราง แต่เมื่อความจริงเปิดเผย ตัวตนของแต่ละคนถูกเปิดโปง ความในใจทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยเช่นกัน . . . หนังของจาง อี้โหมวเรื่องนี้คล้ายกับหนังเรื่องก่อนๆของเขา คือสิ่งที่ตัวละครไม่ได้พูด มีมากกว่าสิ่งที่พวกเขาพูด สิ่งที่ตัวละครไม่ได้เอ่ยปากคือความในใจมากมายเหลือคณานับ . . . หลายฉาก ที่ตัวละครเสี่ยวเม่ยพูดความในใจด้วยภาษาท่าทาง หรือ Body Language โดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยความใดๆแม้แต่วลีเดียว . . .
+มีฉากแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นสองครั้ง ระหว่างเสี่ยวเม่ยกับผู้ชายทั้งสองคน ที่ต่างแสดงความรู้สึกในใจของเธอออกมาอย่างชัดแจ้ง . . .
+วันแรกของการหลบหนีออกจากคุก จินพยายามลวนลามปล้ำจูบ เสี่ยวเม่ยคล้ายจะยินยอม แต่แล้วก็ปัดป้อง เบือนหน้าหนี เอามือปิดปาก ไม่ยอมให้เขาจูบ . . แน่นอนว่าเธอพึงใจ แต่ยังไม่ได้รักเขา . . .
+เมื่อได้อยู่กันตามลำพังครั้งแรก หลังจากสามปีที่ต้องจากกัน เหลียวพยายามปล้ำจูบด้วยความเสน่หา เสี่ยวเม่ยคล้ายจะยินยอม แต่แล้วก็ปัดป้อง เบือนหน้าหนี เอามือปิดปาก ไม่ยอมให้เขาจูบ . . เธอเพิ่งรู้ตัว ว่าไม่ได้รักเขา . . อีกแล้ว
+เหลียวถามเธอว่า เจ้ารักเขาใช่มั๊ย . . เสี่ยวเม่ยไม่ตอบ แต่น้ำตาไหลพราก เหลียวก็เช่นกัน เขาร้องไห้ด้วยหัวใจแตกสลาย นาทีนั้น เขาประจักษ์ชัด ว่าไม่มีวันได้ครอบครองหัวใจเธอ . . อีกต่อไป
+สำหรับผู้เขียน นี่เป็นฉากที่เศร้าที่สุด และดีที่สุดฉากหนึ่งของหนัง
+เหลียวเจ็บปวดและคั่งแค้น เมื่อรู้ว่าความรักของเขาที่มีต่อเสี่ยวเม่ย กลายเป็นรักที่ไม่มีวันได้ครอบครอง . . .
+เสี่ยวเม่ยเองเจ็บปวดไม่แพ้กัน กับความจริงในหัวใจ ว่าเธอรักจินเข้าแล้ว และทรยศต่อความรักมั่นของเหลียว แต่มากยิ่งกว่านั้น เธอปวดร้าวใจ เมื่อเพิ่งตระหนักชัด ว่าความรักของเธอที่มีต่อจิน เป็นความรักที่ "ไม่มีวันได้ครองคู่"
+ความรักที่ไม่สมหวัง ล้วนแต่เจ็บปวดและทรมานใจ . . เช่นนี้เสมอ
+แต่ความในใจของเสี่ยวเม่ยซับซ้อนยิ่งนัก ในฉากที่เธอและจินนอนมองท้องฟ้าอยู่กลางทุ่งหญ้า หลังจากเธอและเขาชื่นชมสมรัก จินขอให้เธอหนีไปพร้อมกับเขา ไปใช้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างอิสระ เสี่ยวเม่ยตอบปฏิเสธ บอกว่าเป็นไปไม่ได้ เขาและเธออยู่กันคนละโลก จินถามเธอว่า "เจ้าทิ้งเขาไปไม่ได้ใช่มั๊ย" เม่ยเบือนหน้าหนีไปอีกด้าน และเมื่อเขาถามเธอว่า "เจ้ายังรักเขาอยู่ใช่ไหม!?" เสี่ยวเม่ยเบือนหน้าหนีออกไปอีกเช่นกัน . .
+คนกลางอย่างเธอ แม้มอบกายมอบใจให้กับผู้ชาย "สามวัน" แต่เยื่อใยและความรู้สึกผิดต่อผู้ชาย "สามปี" ใช่ว่าจะลบทิ้งได้แค่ชั่วสามวัน . . .
+มองในมุม "ผู้หญิง" อย่างตัวผู้เขียนเอง ดูหนังเรื่องนี้ของจาง อี้โหมวแล้ว อดคิดถึงบางแง่มุมจากหนังของเควนติน ทาแรนติโน่ อย่าง Kill Bill Vol.2 และบางส่วนของ Kill Bill Vol.1 ไม่ได้ . . .
+ตัวละครสองฝ่าย ต่างก็ยืนอยู่กันคนละด้านของความรัก และมองความรักกันคนละมุม แต่ไม่ว่าฝ่ายไหนต่างก็มองจากข้างในออกไป และเอาความ "รักตนเอง" เป็นที่ตั้ง . . .
+ซึ่ง . . ไม่มีใครผิด และไม่มีใครถูก . . เพราะกับทั้งหมด ต่างก็คิดด้วย "หัวใจ" ใน Kill Bill Vol.1 และ Vol.2 บิลตามมาสังหารเดอะ ไบรด์ เพราะเขารักเธอ ทั้งรักทั้งแค้นที่เธอหนีไปจากเขา และกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น . . . เขาถามเดอะ ไบรด์ใน Vol.2 เมื่อเธอตามไปฆ่าเขาว่า เธอรักผู้ชายคนนี้หรือ!? คิดหรือว่ามันจะให้ความสุขแก่เธอได้ . .
+เดอะ ไบรด์ตอบว่า เปล่า!! แต่เธอต้องการหนีจากบิล และจากชีวิตเดิมๆ เพราะเธอกำลังจะมีลูก เธอกำลังจะเป็นแม่คน และเธอต้องการเป็นอิสระจากเขา จากวิถีชีวิตของการเป็นนักฆ่า เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ . . .
+เช่นกันกับสิ่งที่เหลียวถามเสี่ยวเม่ย เมื่อเขา "ไม่ปล่อย" เธอไป ว่าเมื่อรู้ว่าเขาจะทำอย่างไรกับเธอ แล้วทำไมยังคิดจะหนีตามจินไปอีก เสี่ยวเม่ยตอบว่า เพื่อชีวิต "อิสระดั่งสายลม"
+ความรักที่เดอะ ไบรด์มีต่อลูกในท้อง ทำให้เธอเริ่มรู้จัก "รักตัวเอง" และต้องการ "ชีวิตใหม่"
+และเมื่อเสี่ยวเม่ยรักจิน เธอจึงเริ่มรู้จัก "รักตัวเอง" และฝันอยากมี "ชีวิตอื่น" เป็นครั้งแรก . .
+เมื่อหัวใจเริ่มกางปีก . . โบยบิน พันธนาการใดๆก็ไร้ซึ่งความหมาย . . .
-ไม่มีดาวให้ เพราะไม่ใช่รีวิวนะคะ-
-----------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------
+ในส่วนของ ตกผลึกความคิด จะพูดถึงแง่คิดดีๆ + ความประทับใจที่ได้จากหนังเรื่องนั้นค่ะ โดยจะเขียนลงสลับกับรีวิวค่ะ (เรื่องไหนน่าสนใจ จะนำมาเขียนเป็นตกผลึกค่ะ)
-----------------------------------------------------------
QUOTE
+อ่านแล้ว มีน้ำใจคอมเม้นต์ให้สักนิดนะคะ เพียงเพื่อ+
+เป็นกำลังใจให้เขียนงานต่อไป . . เสียเวลาอ่านมาสักพัก พิมพ์ตอบ หรือขอบคุณสักนิด คงไม่เป็นไรมั๊งคะ!?+
+นี่ไม่ใช่กระทู้ทั่วไปที่คุณไม่สนใจ ก็ไม่อาจคลิกเพียงเพราะไม่ใส่ใจ หากแต่เป็นกระทู้ที่คุณตั้งใจ และเต็มใจเข้ามาอ่าน ฉะนั้น ขอไมตรีเล็กๆ ให้คนเขียนมีแรงใจทำบทความนะคะ
+นี่ไม่ใช่กระทู้ทั่วไปที่คุณไม่สนใจ ก็ไม่อาจคลิกเพียงเพราะไม่ใส่ใจ หากแต่เป็นกระทู้ที่คุณตั้งใจ และเต็มใจเข้ามาอ่าน ฉะนั้น ขอไมตรีเล็กๆ ให้คนเขียนมีแรงใจทำบทความนะคะ
-ดูหนังให้สนุกนะคะ-
Edited by rbgel, 08 December 2009 - 07:34 PM.
