`

Jump to content





Walkthrough King's Quest VI - Heir Today Gone Tomorrow ฉบับสมบูรณ์


1 reply to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 09 June 2008 - 11:23 PM

King's Quest VI

-Heir Today Gone Tomorrow-


QUOTE
+ระบบของเกม+
Publisher - Sierra On‑Line, Inc.
System - 386 SX ขึ้นไป , แรม 1 MB
Display - VGA , EGA
Control - Mouse , Keyboard
Sound - Sound Blaster และอื่นๆที่เกมสนับสนุน



+King's Quest 6 เป็นหนึ่งในตำนานเกมแนวแอดเวนเจอร์ของ บริษัท Sierra On‑Line, Inc. เจ้าพ่อเกมแอดเวนเจอร์ในอดีต ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดเท่าที่เกมแนว Adventure เคยมีมา โดยเกมนี้มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันมาหลายปีเป็นสิ่งยืนยัน . . รูปแบบของ King's Quest ถูกยกขึ้นหิ้งเป็นงานคลาสสิค และถูกนำเป็นแม่แบบของเกมแนว Adventure ดีๆที่ออกตามมาในภายหลังอีกมากมาย . . และการวางตลาดของเกม King's Quest 6 ยังช่วยปลุกตลาดเกมแนว Adventure ในยุคนั้นให้คึกคัก และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย . .

+ชื่อตอนของ King's Quest ภาคนี้ มีชื่อว่า "Heir Today Gone Tomorrow" โดยผู้เล่นจะรับบทเป็นเจ้า
ชายอเล็กซานเดอร์ แห่งดาเวนทรี พระเอกของเรื่อง เข้าต่อสู้กับ "อัลฮาซเร็ด" (Alhazred) อุปราชตัวร้าย เพื่อช่วยเจ้าหญิงแคสซิม่า (Cassima) นางเอกของเรื่อง . . พล็อตเรื่องอาจจะดูง่ายๆ ไม่มีอะไรมากอย่างนี้ แต่เวลาเล่นจริง รับรองความสนุกของเกมนี้ได้เลยค่ะ


+ในส่วนฉาก Demo Openning ของ King's Quest 6 นั้น ทำออกมาได้สวยมากๆ และสุดยอดไม่แพ้เกมในยุคปัจจุบันเลย ทั้งๆที่ช่วงเวลาห่างกันตั้งหลายปี ดูแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นเกมที่สร้างขึ้นเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว (30 กันยายน 1992) . . มาร่วมระลึกความหลังไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ . . (เกมนี้ยังหา Download ได้อยู่นะคะ ตามเว็ปที่แจกเกม PC เก่ายุค Dos ทั่วไปค่ะ เอามาเล่นกับ อีมูเลเตอร์ Dosbox นะคะ)

QUOTE
+Prologue+
+เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ (Alexander) ลูกชายของกษัตริย์แกรแฮมแห่งอาณาจักรดาเวนทรี กำลังกลุ้มใจอยู่ แต่แล้วกระจกวิเศษซึ่งเป็นหนึ่งในของวิเศษแห่งดาเวนทรี ก็เกิดเปล่งแสงขึ้นมา เมื่อเจ้าชายเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบภาพเจ้าหญิงแคสซิมา (Cassima) ลอยเด่นขึ้นมา แต่หน้าตาของเจ้าหญิงแคสซิมานั้นดูซึมเศร้า เจ้าชายอเล็กซานเดอร์จึงปรึกษามารดาเพื่อที่จะไปเยี่ยมเจ้าหญิงโดยการล่องเรือไป แต่ระหว่างทางนั้นทะเลได้เกิดพายุขึ้น คลื่นยักษ์ได้ถาโถมเข้าใส่เรือที่เจ้าชายอเล็กซานเดอร์โดยสารมาจนเรือแตก แล้วเจ้าชายจะถูกคลื่นซัดลอยมาเกยตื้นที่ชายหาดแห่งหนึ่ง การผจญภัยของเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ได้เริ่มขึ้นแล้ว. . .


-เปิดม่านผจญภัย-


+เจ้าชายอเล็กซานเดอร์จะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาที่ชายหาดแห่งหนึ่ง สำรวจรอบๆบริเวณนี้ดู จะพบกับ "แหวนประจำราชวงศ์ดาเวนทรี" ของเจ้าชายตกอยู่ และไปขยับท่อนไม้ที่วางอยู่แล้วจะพบกับกล่องใบหนึ่ง เปิดกล่องออกจะพบกับ "เหรียญ" อยู่ข้างใน จากนั้นให้เดินขึ้นไปตามทางจะพบกับทางแยก 2 ทาง ที่ต้นไม้ใหญ่ โดยทางซ้ายจะเป็นทางไปยังใจกลางเมือง และทางขวาจะเป็นทางไปยังปราสาท ให้เราไปทางขวาก่อน


+เมื่อไปถึงที่หน้าประตู จะพบกับยามเฝ้าประตูปราสาทที่มีท่าทางไม่เป็นมิตรอยู่ 2 คน ไปคุยกับเขาแล้วยื่นแหวนประจำราชวงศ์ให้ดู พร้อมกับบอกว่าเราคือเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ จะมาขอพบเจ้าหญิงแคสซิมา แล้วยามคนหนึ่งจะเดินเข้าไปในปราสาท สักพักกัปตันซาลาดิน (Saladin) หัวหน้าองครักษ์ จะเดินออกมาแล้วพาเราไปคุยกับอุปราชอัลฮาซเรด (Alhazred) แทนที่จะพาเราไปพบเจ้าหญิง เมื่อคุยไปสักพัก อุปราชจะพยายามพูดบ่ายเบี่ยงไม่ให้เราไปพบกับเจ้าหญิงไม่ว่าเราจะพูดอย่างไรก็ตาม แล้วอุปราชยังบอกข่าวร้ายให้เราฟังอีกนั่นคือ พระราชาและราชินีของเกาะนี้ (บิดาและมารดาของเจ้าหญิงแคสซิมา) ได้สิ้นพระชนม์ลง แล้วอุปราชจะสั่งให้กัปตันซาลาดินพาเราออกไปนอกวัง


+เมื่อออกมาข้างนอกแล้วให้เข้าไปในเมืองแล้วจะพบกับ ชายแก่คนหนึ่งนั่งอยู่ซึ่งเขาต้องการแลกตะเกียงเก่ากับตะเกียงใหม่ โดยเขาให้เหตุผลว่าในตะเกียงเก่าจะมีจินนี่อาศัยอยู่ หากใครได้เป็นเจ้าของแล้วก็จะสบายไปตลอดชาติ และจะพบกับร้าน 2 ร้าน คือร้านหนังสือ และโรงรับจำนำ (Pawn Shop) ให้เข้าไปร้านไหนก่อนก็ได้และหาข้อมูลจากทั้ง 2 ร้านให้ได้มากที่สุด

+โดยที่ร้านหนังสือ เราจะได้"บทกลอนแห่งความรัก"ที่หลุดออกมาจากหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งวางอยู่บนชั้นด้านขวาบน และที่โต๊ะใกล้ๆกับประตูเราจะได้ "หนังสือที่น่าเบื่อ" ซึ่งเจ้าของร้านไม่ต้องการแล้วและเขาจะยกให้เรา คุยกับเจ้าของร้านแล้วเขาจะแนะนำให้เราไปถามเรื่องราวต่างของเกาะนี้ จากกัปตันเรือที่อ่าวทางเหนือของเกาะ

+จากนั้นให้ไปที่โรงรับจำนำแล้วคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งในโรงรับจำนำนี้จะมีของให้เราใช้แลกเปลี่ยนได้ทั้งหมด 4 อย่างคือ นกไนติงเกลปลอม , ขลุ่ย , แปรงทาสี และตะเกียง โดยของทั้ง 4 อย่างนี้ เราสามารถมาแลกเปลี่ยนได้ทุกเวลา ให้เราเอาเหรียญที่เก็บได้ที่ชายหาดแลกกับ "นกไนติงเกลปลอม" มาแล้วออกจากร้าน เดินขึ้นไปทางเหนือจะพบกับบ้านใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งสาวใช้คนหนึ่งกำลังโดนเจ้าของบ้านต่อว่าอยู่


+ให้เดินต่อไปทางซ้ายต่อจะพบกับอ่าวที่มีเรือจอดอยู่ แล้วจะพบกับเด็กคนหนึ่งชวนเราลงไปเล่นน้ำด้วย ไม่ต้องไปสนใจ ให้เข้าไปที่เรือ แล้วเคาะประตูสักพักเจ้าของเรือก็จะออกมาต้อนรับ ให้คุยกับเขาแล้วเขาจะเชิญเราเข้าไปคุยข้างใน เข้ามาแล้วคุยกับเขา จะทำให้เราได้รู้อะไรเกี่ยวกับเกาะแห่งนี้เพิ่มขึ้นอีกมากมาย ซึ่งเราจะรู้แล้วว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ที่หมู่เกาะสีเขียว (Green Isles) ซึ่งประกอบไปด้วย"เกาะแห่งกษัตริย์" (The Isle Of The Crown) ซึ่งก็คือเกาะที่เรากำลังอยู่ในปัจจุบัน ,"เกาะแห่งความพิศวง" (The Isle Of Wonder) ,"เกาะแห่งภูเขาลับแล" (The Isle Of Sacred Mountain และ "เกาะแห่งอสูร "(The Isle Of Beast) และยังมีเกาะลึกลับอีกเกาะหนึ่งซึ่งจะปรากฎขึ้นมาในบางครั้งเท่านั้น นั่นก็คือ"เกาะแห่งหมอกมายา" (The Isle Of Mist) โดยแต่เดิมนั้นชาวเกาะทั้ง 5 ได้อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่แล้ววันหนึ่งสมบัติล้ำค่าของแต่ละเกาะได้หายไป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ได้เป็นชนวน
ให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันระหว่างเกาะทั้ง 5 และการเดินเรือระหว่างเกาะได้ถูกยกเลิก

+และนอกจากนี้เรายังจะได้รู้อีกว่า แต่เดิมได้มีจอมเวทย์ผู้มีคาถาอาคมอันแกร่งกล้า ได้เดินทางไปมาระหว่างเกาะต่างๆได้โดยอาศัยแผนที่เวทย์มนตร์ (Magic Map) ซึ่งถ้าเราได้มาแล้วการเดินทางระหว่างเกาะทั้ง 5 ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย เมื่อคุยกับเขาจบแล้ว ให้เราเก็บ "เครื่องรางขากระต่าย" ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหน้าเรามาด้วย

+จากนั้นให้กลับมาที่ร้านหนังสือ เข้าไปข้างในแล้วเราจะพบกับจอลโล่ (Jollo) คนรับใช้ของเจ้าหญิงแคสซิมา ซึ่งเขาจะไม่ยอมคุยกับเราจนกว่าจะรู้ว่าเราคือเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ให้ยื่นแหวนประจำราชวงศ์ให้เขาดู เมื่อคุยกับเขาแล้วเราจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงเพิ่มขึ้นอีกมากมาย เป็นต้นว่าเจ้าหญิงได้เลี้ยงนกไนติงเกลไว้ตัวหนึ่ง และเจ้าหญิงยังชอบฟังบทกวีอีกด้วย

+เมื่อคุยจบแล้วจอลโล่จะเดินออกจากร้านไป ให้เราไปที่เคาน์เตอร์ของร้านหนังสือ ซึ่งที่นี่จะมีหนังสือเวทย์มนตร์ (Magic Book) วางอยู่ เจ้าของร้านจะบอกว่าถ้าเราต้องการหนังสือเวทย์มนตร์เล่มนี้ ให้เรานำหนังสือที่มีค่า (Rare Book) มาแลก

+เสร็จแล้วให้เราไปที่โรงรับจำนำคุยกับเจ้าของร้าน แล้วเราจะรู้ว่าเขามีแผนที่เวทย์มนตร์ที่เราต้องการอยู่ แต่ว่ามันมีราคาที่สูงมาก ให้เราเอาแหวนประจำราชวงศ์ไปแลก แล้วเราก็จะได้"แผนที่เวทย์มนตร์"มา ระหว่างนี้จะมีชายลึกลับคนหนึ่งสวมชุดดำ ซึ่งเราเคยเจอมาก่อนหน้านี้แล้ว (ที่ร้านหนังสือ) ได้เดินเข้าไปขอลูกอมรสมินต์ที่วางอยู่ในโหลบนโต๊ะกับเจ้าของร้าน แล้วก็เดินออกจากร้านไป

+จากนั้นภาพจะตัดมาที่ฉากการสนทนาระหว่างอุปราชกับจินนี่ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วชายลึกลับคนนั้นก็คือจินนี่ที่แปลงร่างมาแอบสะกดรอยตามคอยดูพฤติ
กรรมเรานั่นเอง มันจะมารายงานอุปราชเจ้านายของมันว่าเราได้แผนที่เวทย์มนตร์มาแล้ว แล้วเรายังจะได้รู้จุดอ่อนของจินนี่อีกว่า มันแพ้มินต์ (แต่ชอบกิน)

+ตัดกลับมาที่โรงรับจำนำอีกครั้ง ให้เราขอ "ลูกอมรสมินต์" จากเจ้าของร้านบ้าง แล้วออกจากร้าน และกลับไปที่ชายหาดเพื่อที่จะใช้แผนที่เวทย์มนตร์ (แผนที่เวทย์มนตร์จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อต้องอยู่ใกล้ทะเลเท่านั้น) แล้ววาร์ปไปที่เกาะแห่งภูเขาลับแล ให้เก็บ "ดอกไม้" และ "ขนม้าสีดำ" มา

+จากนั้นให้วาร์ปไปที่เกาะแห่งความพิศวง เมื่อมาถึง บริเวณนี้จะมีหอยมุกอยู่ตัวหนึ่งนอนไม่หลับ ให้เราใช้หนังสือที่น่าเบื่ออ่านให้มันฟัง แล้วเจ้าหอยมุกก็จะอ้าปากหาว ช่วงนี้ให้เรารีบหยิบ “ไข่มุก” ที่อยู่ในปากมันออกมา จากนั้นในทะเลจะมีประโยคข้อความ "Where are you going" ลอยอยู่ในทะเล รอให้มันลอยมาใกล้ๆชายหาด แล้วจึงเก็บมันขึ้นมา

+จากนั้นให้เราวาร์ปกลับไปที่เกาะแห่งกษัตริย์ ไปที่โรงรับจำนำ แล้วจะเห็นเจ้าของร้านนำขยะมาทิ้งที่ถังขยะหน้าร้าน ไปสำรวจที่ถังขยะ แล้วเราจะได้ "หมึกล่องหน" มา แล้วเข้าไปในร้าน ใช้ไข่มุกแลกแหวนประจำราชวงศ์คืนมา แล้วกลับมาที่ทางแยกตรงต้นไม้ใหญ่ ซึ่งที่นี่จะมีนกไนติงเกลของเจ้าหญิงเกาะอยู่บนต้นไม้ ให้เราใช้นกไนติงเกลปลอมล่อนกของเจ้าหญิงลงมา แล้วยื่นแหวนประจำราชวงศ์ให้มัน มันจะคาบแหวนของเรา ไปให้เจ้าหญิง เมื่อเธอได้รับเธอจะดีใจมาก และจะมอบ "ริบบิ้นผูกผมสีแดง"กลับมาให้ ซึ่งภายในริบบิ้นผูกผมจะมีเส้นผมของเจ้าหญิงปนอยู่ด้วย แล้วให้เรานำบทกลอนแห่งความรักยื่นให้นกไป มันก็จะคาบกลับไปให้เจ้าหญิงอีก เมื่อเธอได้รับแล้วเธอจะเกิดความประทับใจในตัวของเจ้าชายอเล็กซานเดอร์เป็นอย่างมาก แล้วเธอจะส่ง "จดหมาย" กลับมาเตือนให้เราระวังตัวจากแผนร้ายของอุปราช

+จากนั้นให้เราวาร์ปกลับไปที่เกาะแห่งความพิศวง เมื่อมาถึงแล้ว ให้เดินเข้าไปข้างใน แล้วจะมีปีศาจผู้เฝ้าเกาะทั้ง 5 ตนเดินออกมาต้อนรับพร้อมกับทำการพิสูจน์ว่าเราคือมนุษย์หรือไม่? โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของพวกเขาตรวจสอบ ซึ่งถ้าพวกเขาจับได้ว่าเราเป็นมนุษย์ พวกเขาจะจับเราโยนลงทะเลทันที วิธีผ่านก็คือ ปีศาจตัวที่ 1 จะพิสูจน์กลิ่น ให้เราใช้ดอกไม้ให้เขาดม , ปีศาจตัวที่ 2 จะพิสูจน์เสียง ให้เราใช้นกไนติงเกลปลอมให้เขาฟัง , ปีศาจตัวที่ 3 จะพิสูจน์รสชาติ ให้เราใช้ลูกอมรสมินต์ให้เขากิน , ปีศาจตัวที่ 4 จะพิสูจน์การสัมผัส ให้เราใช้เครื่องรางขากระต่ายให้เขาจับ และปีศาจตัวสุดท้ายจะพิสูจน์รูปลักษณ์ ให้เราใช้หมึกล่องหนกับตัวเราเอง แล้วเราก็จะรอดพ้นจากการจับผิดของพวกเขาไปได้

+จากนั้นให้เดินไปทางขวาของเกาะ จะพบกับหนังสือกองใหญ่ สำรวจที่กองหนังสือแล้วจะพบกับหนอนหนังสือออกมาคุยกับเรา เขาจะบอกเราว่าถ้าเราตามหาหลานของเขาเจอและนำมาส่งให้กับเขาได้ เขาจะมอบหนังสือที่มีค่า (Rare Book)ให้กับเรา


+จากนั้นให้กลับมาที่ชายหาดแล้วเดินขึ้นไปข้างบน จะพบกับต้นไม้หน้าสุนัข และหนองน้ำที่มีแต่โคลน ให้เราเก็บ"ขวดนม"ที่อยู่ตรงโคนต้นไม้หน้าสุนัข แล้วเดินต่อไปทางซ้าย เราจะมาอยู่ที่หน้าประตูวังของเกาะแห่งความพิศวง ให้เก็บ "ดอกไม้น้ำแข็ง" และเก็บ "มะเขือเทศที่เน่า" (ผลสีน้ำตาล) มาเก็บไว้ แล้วเปิดประตูวังเข้าไป

+เมื่อเข้ามาแล้วจะพบกับม้าหมากรุก 2 ตัว (2 ฝ่ายคือสีแดงและสีขาว) ยืนประจำการอยู่ เมื่อเราจะเดินเข้าไปข้างใน ราชินีหมากรุกของทั้ง 2 ฝ่ายจะเดินออกมา แล้วทั้งคู่จะเถียงกันเรื่องก้อนถ่านหิน โดยทั้งคู่จะให้เราตัดสินให้ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์เลยเสนอความคิดให้หาก้อนถ่านหินมาอีกก้อน จะได้แบ่งกันอย่างยุติธรรม แต่ราชินีหมากรุกทั้ง 2 ตัวจะบอกว่าจะไม่รู้จะไปหามาจากที่ไหน เพราะมีกันอยู่แค่ก้อนเดียวเท่านั้น แล้วทั้งคู่จะเดินกลับเข้าไปในดินแดนของตน ซึ่งราชินีหมากรุกสีแดงจะทำ "ผ้าพันคอสีแดง" ตกไว้ให้เราไปเก็บมา แล้ววาร์ปไปที่เกาะแห่งอสูร


+เมื่อมาถึงแล้ว เราจะพบกับหนอนตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้ คุยกับมันแล้วใช้ประโยค "Where are you going" กับมันแล้วมันจะยอมตามเรามา จากนั้นให้เดินขึ้นไปข้างบนจะพบกับบ่อน้ำแห่งหนึ่งซึ่งร้อนมาก ให้เราโยนดอกไม้น้ำแข็งลงไป จะทำให้น้ำเย็นลงพอที่เราจะข้ามไปได้ แล้วเก็บ"ตะเกียง"ที่แขวนอยู่บนกิ่งไม้มา แล้วเดินต่อไปทางด้านบน เราจะมาอยู่ที่ทางเข้าสวนซึ่งจะมีรูปปั้นกามเทพที่อยู่บนกำแพงจะเล็งธนูหันมาหาเรา
ตลอดเวลา ให้เราเก็บ "ก้อนอิฐ" ที่วางอยู่หน้าทางเข้าสวนแล้วกลับออกมา (ถ้าเดินเข้าไปเราจะโดนรูปปั้นยิงธนูใส่ทันที)

+จากนั้นให้วาร์ปกลับไปที่เกาะแห่งความพิศวง เมื่อมาถึงแล้ว ให้นำเจ้าหนอนตัวเล็กไปส่งให้กับหนอนหนังสือ แล้วเขาจะให้ "หนังสือที่มีค่า" (Rare Book) กับเรามาเป็นการตอบแทน เมื่อเราเปิดอ่านดูจะพบว่าหนังสือเล่มนี้ มีใจความสำคัญตอนหนึ่งขาดหายไป และที่มุมซ้ายล่างของฉากนี้ จะมีแมงมุมพิษตัวหนึ่งกำลังชักใยอยู่ เมื่อเข้าไปดู จะพบว่ามีเศษชิ้นส่วนของหนังสือติดอยู่บนใยแมงมุม ให้สังเกตุที่ด้านล่างของใยแมงมุม จะมีปลายเส้นใยเส้นหนึ่งห้อยอยู่ ให้เราดึงเส้นใยนั้นแล้วเจ้าแมงมุมจะรี่ตรงมาหาเราทันที ให้เรารีบหยิบเศษกระดาษซึ่งติดอยู่ด้านบน ก็จะหยิบมาได้ (ถ้าหยิบพลาดจะโดนแมงมุมกัดตายทันที) และนี่คือเศษของหนังสือที่หายไป มีใจความสั้นๆคำเดียวว่า "LOVE" แต่ยังไม่ทันที่เราจะได้พิจารณาเศษกระดาษนี้อย่างละเอียด ลมก็จะพัดพาเอาเศษกระดาษแผ่นนั้นลอยหายไปซะก่อน

+ให้วาร์ปกลับมาที่เกาะแห่งกษัตริย์ แล้วไปที่ร้านหนังสือ แลกนกไนติงเกลปลอมกับขลุ่ย แล้วกลับไปที่หน้าประตูวังของเกาะแห่งความพิศวง เก็บ "ถ้วยน้ำชา" ที่วางอยู่บนเก้าอี้ ส่วนที่กำแพงจะเจอแมลงชนิดหนึ่ง มีชื่อว่า Hole-In-The-Wall ซึ่งลักษณะพิเศษของมันก็คือ สามารถมองทะลุกำแพงได้โดยมองผ่านตัวของมัน ให้เราเป่าขลุ่ยเป็นเพลง แล้วดอกไม้จะพากันเต้นรำ เมื่อเสียงดนตรีหยุดลง ให้รีบไปจับตัวมันมา เมื่อได้ "แมลง Hole-In-The-Wall" มาแล้ว ให้นำขวดนมไปป้อนให้กับดอกไม้ที่เป็นเด็กทารกดอกไหนก็ได้ แล้วดอกที่เหลือจะพากันร้องไห้ที่ไม่ได้กินนม ให้เราเอาตะเกียงไปรองน้ำตาเก็บเอาไว้

+แล้วเดินกลับมาที่ฉากต้นไม้หน้าสุนัข แล้วใช้ถ้วยน้ำชาไปตักโคลนในบ่อ แต่กิ่งไม้เจ้าของบ่อจะโวยวายไม่ให้เราตัก แต่ท่อนไม้ข้างหลังเราซึ่งเป็นพี่ชายของกิ่งไม้ที่อยู่ในบ่อจะพูดตอบโต้ให้เราตักได้ ให้เราคุยกับตัวพี่ชาย แล้วตัวน้องชายจะทำท่ากวนอารมณ์ใส่ตัวพี่ชาย แล้วตัวพี่ชายจะบอกเราว่าหมั่นไส้น้องชายมาก อยากหาอะไรปาใส่เหลือเกิน ให้เราเอามะเขือเทศลูกที่เน่ายื่นให้เขา แล้วตัวพี่ชายจะพามะเขือเทศเน่าใส่น้องชาย แต่พลาด ตัวน้องชายเลยได้โอกาสปาโคลนตอบโต้ใส่พี่ชายอย่างจัง ในที่สุดท่อนไม้ผู้เป็นพี่ก็จะเป็นฝ่ายขอยอมแพ้ ให้เราใช้ถ้วยน้ำชาตักโคลนที่เลอะอยู่บนท่อนไม้มา

+จากนั้นให้วาร์ปกลับไปที่เกาะแห่งกษัตริย์ กลับไปที่โรงรับจำนำ แล้วแลกขลุ่ยกับตะเกียงมา(Tinder Box) แล้ววาร์ปไปที่เกาะแห่งภูเขาลับแล ซึ่งสภาพภูมิประเทศแห่งนี้จะเป็นหน้าผาอันสูงชัน โดยวิธีที่จะขึ้นไปด้านบนของหน้าผานั้น เราจะต้องแก้ไขปริศนาที่อยู่ที่บนกำแพงหินซะก่อน เมื่อเราแก้ปริศนาได้แล้ว จะมีก้อนหินยื่นออกมาให้เราเดินขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ ซึ่งปริศนานั้นมีทั้งหมด 5 ข้อด้วยกันดังนี้

+ปริศนาข้อที่ 1 จะมีอักษรจารึกไว้ว่า"Ignorance Kills Wisdom Elevates" วิธีแก้คือ ให้เราคลิกที่ตัว R ของคำว่า Ignorance , I ของคำว่า Kills , S ของคำว่า Wishdom และ E ของคำว่า Elevates

QUOTE
+ปริศนาข้อที่ 2 จะมีคำถามว่า A Master Of Languages Will แล้วจะมีคำตอบเป็นตัวอักขระโบราณ วิธีแก้คือ ให้เราคลิกตัวอักขระ 4 ตัว ดังนี้
ตัวที่ 1 = บรรทัดที่ 3 ตัวที่ 3
ตัวที่ 2 = บรรทัดที่ 3 ตัวที่ 4
ตัวที่ 3 = บรรทัดที่ 5 ตัวที่ 3
ตัวที่ 4 = บรรทัดที่ 5 ตัวสุดท้าย


+ปริศนาข้อที่ 3 จะมีคำถามเป็นวงกลม 4 วง วิธีแก้คือ ให้นับจากซ้ายไปขวา แล้วคลิกวงที่
4 , 1 และ 2 ตามลำดับก็จะผ่านได้

QUOTE
+ปริศนาข้อที่ 4 จะเหมือนกับปริศนาที่ 2 โดยจะมีคำถามว่า The Sacred Four วิธีแก้คือให้เราคลิกที่ตัวอักขระ 4 ตัว ดังนี้
ตัวที่ 1 = บรรทัดที่ 7
ตัวที่ 2 = บรรทัดที่ 3 ตัวที่ 4
ตัวที่ 3 = บรรทัดที่ 4 ตัวที่ 5
ตัวที่ 4 = บรรทัดที่ 4 ตัวที่ 6


+ปริศนาข้อที่ 5 จะเหมือนกับปริศนาที่ 1 คือ จะมีอักษรจารึกไว้ว่า "All Silent Cry The Noble Bouder" วิธีแก้คือ ให้เราคลิกตัว A-S-C-E-N-D ที่อยู่ในแต่ละคำ ก็จะผ่านได้

+เมื่อแก้ปริศนาทั้งหมดได้แล้ว เราจะขึ้นมาอยู่บนยอดหน้าผา แล้วจะมียายคนหนึ่งชวนให้เรากินผลไม้ ซึ่งยายแกบอกว่ากินแล้วจะเหาะได้ ซึ่งถ้าสังเกตุให้ดีๆ ยายคนนี้จะมีประกายตาสีเหลืองซึ่งเจ้าจินนี่ก็จะมีประกายตาสีเหลืองเหมือนกัน ที่แท้ยายคนนี้ก็คือเจ้าจินนี่แปลงกายมาหลอกเรานั่นเอง ไม่ต้องไปสนใจมัน สักพักมันก็จะหมดความอดทนหนีหายไปเอง

+ที่ข้างๆกอผลไม้ของเจ้าจินนี่จะมีโพรงเล็กๆ อยู่ เมื่อเข้าไปแล้วจะพบว่าข้างในมืดมาก ให้เราจุดตะเกียงแล้วเดินไปเข้าทางลอดไปยังส่วนอื่นของถ้ำ เมื่อข้ามมาอีกฝั่งแล้ว จะพบต้นเปปเปอร์มินต์ปลูกอยู่นอกถ้ำ ให้ยื่นมือไปเก็บใบ "เปปเปอร์มินต์" มา แล้วกลับออกไปจากถ้ำโดยทางเก่าที่เข้ามา


+เมื่อออกมาแล้วให้เดินตรงขึ้นไป ข้างบนจะเป็นทางไปยังวิหารของมนุษย์นก คุยกับทหารยาม 2 คน แล้วพวกเขาจะพาเราไปพบกับพระราชาและราชินีของอาณาจักรแห่งนี้ ซึ่งทั้ง 2 จะทึ่งในความสามารถของเราที่สามารถขึ้นมายังดินแดนแห่งนี้ได้ทั้งๆที่ไม่มีปีก แล้วพระราชาและราชินีจะขอร้องให้เราช่วยลูกสาวของเขา ซึ่งถูก"มิโนทอร์" สัตว์ประหลาดหน้าวัว จับตัวไป


QUOTE
1.ไอเท็ม "หัวกระโหลก"
2.ห้องกับดัก 1 - แก้ปริศนาโดยเดินให้ถูกช่อง
3.ไอเท็ม "โล่ห์"
4.ไอเท็ม "เหรียญโบราณ"
5.ห้องกับดัก 2 - ใช้ก้อนอิฐหยุดการทำงานของเฟือง
6.ห้องที่ได้ยินเสียงมิโนทัวร์ และใช้แมลง Hole-In-The-Wall ที่นี่
7.ทางเข้าห้องลับ
8.สู้กับมิโนทอร์ที่นี่


+แล้วทหารยามจะมาพาเราไปยังสุสานใต้ดินซึ่งเป็นที่อยู่ของมิโนทอร์ ทางเดินในนี้จะสลับซับซ้อนมาก ซึ่งในสถานที่แห่งนี้ เราจะต้องเก็บ "หัวกระโหลก" , "โล่ห์" ที่แขวนอยู่ที่ผนังห้อง และ "เหรียญโบราณ" ที่ซ่อนอยู่ในซากศพ แล้วจึงลงไปยังสุสานชั้นล่าง แต่ในระหว่างทาง จะพบกับห้องกับดักอยู่ 2 ห้อง โดยห้องแรกนั้นจะเป็นห้องพื้นกล ซึ่งถ้าเราเดินผิด เราจะถูกลูกศรอาบยาพิษยิงตายทันที

+วิธีผ่านคือให้นับช่องบล็อคที่ปูพื้นอยู่ (ขนาด 5X4) จากซ้ายไปขวา เป็นบล็อคที่ 1-5 ถัดลงมาเป็น 6-10 และไล่ลงมาเรื่อยๆจนครบ 20 บล็อค โดยเริ่มต้นเราจะมาอยู่ที่บล็อคที่ 15 แล้วให้เราเดินไปยังบล็อคที่ 10 , 14 , 18 , 13 , 8 , 2 , 6 และ 11 ตามลำดับ ก็จะผ่านมาได้ ส่วนห้องกับดักอีกห้องจะเป็นห้องที่ผนังด้านบนจะยุบตัวลงมาทับเรา ให้รีบใช้ก้อนอิฐขว้างเข้าไปฟันเฟืองเพื่อหยุดการทำงานของกลไก ก็จะผ่านมาได้

+ที่ชั้นล่างของสุสาน ที่ที่เราหล่นลงมาจะมืดมาก ให้จุดตะเกียงแล้วไปยังห้องที่ได้ยินเสียงมิโนทอร์ แล้วใช้แมลง Hole-In-The-Wall ที่กำแพงด้านขวาแล้วมองทะลุไป จะเห็นมิโนทอร์กำลังเปิดทางลับ ให้รีบไปยังห้องนั้นโดยเดินอ้อมกลับมายังห้องที่เราหล่นลงมา เมื่อไปถึงจะพบภาพวาดแขวนอยู่บนผนัง ให้ไปขยับรูปภาพแล้วทางลับก็จะเปิดออก


+เข้าไปข้างในแล้วจะพบว่าเจ้ามิโนทอร์กำลังจะทำร้ายเจ้าหญิงเคเลส (Lady Celeste) ลูกสาวของพระราชาและราชินีของเกาะแห่งนี้ ให้เราล่อมิโนทอร์มาสนใจเราโดยใช้ "ผ้าพันคอสีแดงของราชินีหมากรุก" โดยนำผ้าพันคอมาทาบไว้ระดับอก แล้วเจ้ามิโนทอร์ก็จะพุ่งเข้าใส่ผ้าพื้นนั้น แต่เจ้าชายอเล็กซานเดอร์จะอาศัยความเร็วพลิกตัวหลบ ส่งผลให้เจ้ามิโนทอร์ตกลงไปกองไฟ หลังจากช่วยเจ้าหญิงได้แล้ว เธอจะให้ "ดาบ" มาเป็นสิ่งตอบแทน แล้วออกมายังด้านนอก

+ทหารยามจะพาเราไปหาพระราชาและราชินีอีกครั้ง ทั้ง 2 จะตอบแทนที่เราช่วยเจ้าหญิง โดยการพาเราไปหาหมอดูที่อยู่บนยอดเขาแห่งนี้ หมอดูจะทำนายเรื่องของเจ้าหญิงแคสซิมาว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย แล้วเธอยังบอกเราอีกว่ามีดวงวิญญาณ 2 ดวงที่อยู่ในนรก ต้องการที่จะกลับมาแก้แค้น ซึ่งก็คือวิญญาณของพ่อและแม่เจ้าหญิงแคสซิม่านั่นเอง ส่วนวิธีที่จะไปยังนรกนั้น หมอดูบอกให้เราไปถามเอาจากพวก "ดรอยด์" (Druids) ซึ่งอาศัยอยู่ที่เกาะแห่งหมอกมายา หลังจากจบการทำนายแล้ว หมอดูจะตักน้ำที่ใช้ในการทำนายใส่หลอดแก้วมาให้เรา

+จากนั้นทหารยามจะนำเรามาส่งที่ชายหาดของเกาะ ซึ่งในตอนนี้ในแผนที่เวทย์มนตร์ของเราจะมีภาพของเกาะหมอกปรากฎขึ้นมาแล้ว (อยู่ทางมุมขวาล่าง) ให้วาร์ปไปที่เกาะนั้น แล้วเดินไปทางซ้าย จะพบหมู่บ้าน ให้เราเก็บ"เคียว" และ "ถ่านหิน" ที่อยู่ในบริเวณนี้แล้วเดินกลับมาทางเดิม

+จากนั้นวาร์ปไปที่เกาะแห่งอสูร ไปที่สวนที่มีรูปปั้นกามเทพ ให้เราใช้โล่บังลูกธนูที่รูปปั้นยิงมาก็จะเข้ามาข้างในได้ แล้วไปเด็ด "ดอกกุหลาบสีขาว" มา 1 ดอก แล้วใช้เคียวฟันต้นไม้ที่ขึ้นมาขวางทาง แล้วเดินเข้าไปข้างใน เราจะพบกับปราสาทหลังงามซึ่งเป็นที่อยู่ของเจ้าชายอสูร เขาจะออกมาคุยกับเรา แล้วเขาจะบอกถึงวิธีที่จะทำให้เขาพ้นจากคำสาป นั่นคือเขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่มีรักแท้ให้กับเขาโดยไม่รังเกลียดรูปร่างหน้าอัน
อัปลักษณ์ของเขาแต่อย่างใด แล้วเขาจะมอบแหวนประจำตัวเขาให้กับเรา


+จากนั้นให้เราวาร์ปกลับไปที่เกาะแห่งกษัตริย์ แล้วไปที่บ้านหลังใหญ่ที่มีสาวใช้ที่โดนว่าอยู่เป็นประจำ เมื่อไปถึง จะพบเธออยู่หน้าบ้าน คุยกับเธอแล้วยื่นดอกกุหลาบสีขาวให้กับเธอ แล้วชวนเธอคุยด้วย แล้วเราจะรู้ว่าเธออาศัยอยู่แม่เลี้ยงใจร้าย จากนั้นให้ถามเธอว่าต้องการไปอยู่ที่อื่นบ้างหรือไม่? แล้วเจ้าชายจะบอกว่าถ้ามีคนจิตใจดีต้องการตัวเธอมาเป็นเจ้าสาวและจะดูแลเธอเป็นอย่าง
ดี เธอจะยอมไปจากที่นี่หรือไม่? เธอจะตอบว่าถ้าเป็นอย่างนั้นเธอก็ยินดีไปด้วย แล้วเจ้าชายจะถามต่อว่า ถ้าชายจิตใจดีคนนั้นมีหน้าตาอัปลักษณ์ล่ะ? เธอจะบอกว่าหน้าตาเป็นอย่างไรไม่สำคัญที่สำคัญคือความงามของจิตใจ ดังนั้นยื่นแหวนให้กับเธอแล้วพาตัวเธอไปหาเจ้าชายอสูรได้เลย

+จากนั้นภาพจะตัดกลับมาที่เจ้าชายอสูรบอกรักสาวคนใช้ แล้วเขาจะหายจากคำสาป กลับมาเป็นคนธรรดา แล้วทั้งคู่จะแต่งงานกันและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และเจ้าชายอสูรจะมอบ "เสื้อผ้าของสาวคนใช้" กับ "กระจกวิเศษ" ให้กับเรามาเป็นสิ่งตอบแทน

+ฉากจบ แบบที่ 1+
+จากนั้นให้เรา เตรียมคาถาเรียกฝน โดยนำหลอดน้ำยาที่หมอดูให้มาผสมกับน้ำตาเด็กที่อยู่ในตะเกียง แล้วนำตะเกียงไปตักน้ำในน้ำพุ (อยู่หน้าปราสาทของเจ้าชายอสูร) มาผสมอีก ก็จะได้ส่วนผสมที่ใช้สำหรับเรียกฝนมา จากนั้นให้เปิดหนังสือเวทย์มนตร์ไปที่หน้าคาถา "Make Rain Spell" แล้วร่ายคาถาตามที่เขียนไว้ในหนังสือ (หน้าซ้ายของหนังสือจะบอกถึงส่วนผสมที่จะต้องใช้ และรายละเอียดในการผสม ส่วนหน้าทางขวาจะเป็นบทคาถา ให้เราเลื่อนเมาส์มาที่ส่วนนี้ แล้วเคอร์เซอร์เมาส์จะเปลี่ยนเป็นคำว่า "Cast" แล้วจึงคลิกเมาส์อีกครั้ง) ถ้าร่ายคาถาสำเร็จ เจ้าชายจะเอามือวนรอบหัว และตะเกียงจะเปล่งแสงขึ้นมา

+จากนั้นให้วาร์ปไปที่เกาะแห่งหมอกมายา เมื่อมาถึงชาวเผ่าดรอยด์ จะจับตัวเราไปขังไว้ในกรงแล้วแขวนเราไว้เหนือกองไฟ รอสักพักคาถาเรียกฝนที่เราเสกไว้ก็จะออกฤทธิ์ ชาวเผ่าดรอยด์จะพากันตกใจ นึกว่าเราเป็นจอมขมังเวทย์ แล้วจะปล่อยตัวเราลงมา จากนั้นคุยกับหัวหน้าเผ่าแล้วเขาจะขอโทษเรา และบอกว่าเขาได้รับสารแจ้งเหตุจากอุปราช ว่าจะมีชายต่างถิ่นเข้ามาก่อการร้าย ทำให้เขาต้องเสียมารยาทกับเรา แล้วเจ้าชายอเล็กซานเดอร์จะซักถามหัวหน้าเผ่าถึงวิธีการไปยังนรก แล้วเขาจะเล่าถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยมีผู้กล้าคนหนึ่งได้ลงไปในนรกเพื่อท้าพนันกับ
มัจจุราช แต่ในที่สุดผู้กล้าก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และเขาก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย คุยจบแล้วพวกชาวเผ่าดรอยด์จะเดินจากเราไป

+จากนั้นให้เราใช้หัวกระโหลกตัก "ขี้เถ้า" ซึ่งกำลังคุอยู่ในกองไฟ แล้ววาร์ปไปที่หน้าประตูวังของเกาะแห่งความพิศวง แล้วเก็บ "ขวดยา" (ที่เขียนว่า Drink Me) มา แล้วเปิดประตูเข้าไปหาราชินีหมากรุก เมื่อราชินีหมากรุกทั้ง 2 มาแล้ว ให้เราคุยกับพวกเธอแล้วเอาถ่านหินยื่นให้พวกเธอไป แล้วพวกเธอจะดีใจที่ตอนนี้มีถ่านหินกันคนละก้อนแล้ว จึงไม่ต้องทะเลาะเพื่อแย่งกันอีกต่อไปก่อนจากไปเธอจะมอบ "ก้อนกำมะถัน" ให้กับเรามาเป็นสิ่งตอบแทน

+จากนั้นแล้วให้วาร์ปไปที่เกาะแห่งภูเขาลับแล แล้วขึ้นไปที่ด้านบนของหน้าผา เราจะพบกับม้าปีศาจสีดำ "Nightmare" ที่หัวหน้าเผ่าดรอยด์ได้เคยบอกเอาไว้ว่าผู้กล้าคนก่อนได้ใช้มันนำทางลงไปยังนรก จากนั้นให้เรานำเส้นผมของเจ้าหญิงแคสซิมาและก้อนกำมะถัน ใส่ลงไปในหัวกระโหลกที่มีขี้เถ้าคุอยู่ (ใช้ไอค่อนรูปมือ สำรวจที่ริบบิ้นผูกผมสีแดง ก็จะได้เส้นผมของเจ้าหญิงมา) แล้วเปิดหนังสือเวทย์มนตร์ไปที่หน้าคาถา "Charming a Creature Of The Night" แล้วร่ายคาถา ถ้าทำสำเร็จ ม้าปีศาจก็จะพาเราไปยังนรก

+เมื่อมาถึงแล้ว จะพบกับดวงวิญญาณ 2 ดวงเดินไปมา ให้รีบเข้าไปคุยด้วย แล้วเราจะรู้ว่าทั้ง 2 คือ"พระราชากาลิบฮิม"(Caliphim) และ"ราชินีอัลลาเรีย"(Allaria) ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของเจ้าหญิงแคสซิมานั่นเอง ทั้งคู่ถูกอุปราชลอบทำร้ายในขณะที่พระองค์บรรทมอยู่ แล้วเจ้าชายอเล็กซานเดอร์จะบอกว่าที่ตนเองมาที่นี่ ก็เพื่อมาช่วยพระราชาและราชินี กลับไปยังโลกมนุษย์ ซึ่งพระราชาและราชินีจะดีใจมาก และราชินีจะมอบ "บัตรผ่านทางเข้านรก" ให้กับเรามา


+จากนั้นให้เราเดินไปทางขวา (ระวังอย่าให้ซอมบี้ที่อยู่ในฉากนี้จับตัวได้ ไม่งั้นจะตายทันที) แล้วเราจะพบกับดวงวิญญาณดวงหนึ่ง เธอจะบอกว่าได้พลัดหลงกับวิญญาณลูกของเธอ และขอร้องให้เราช่วยตามหาให้หน่อย คุยจบแล้วเธอจะให้ "ผ้าเช็ดหน้า" ของเธอมาเพื่อเวลาลูกของเธอได้รับผ้าเช็ดหน้าผืนนี้แล้วก็จะสามารถกลับมาหาเธอได้

+จากนั้นให้เราเดินขึ้นไปทางด้านบนเรื่อยๆ แล้วเราจะมาถึงปากทางเข้านรก ซึ่งจะมียมทูตยืนคุมประตูให้วิญญาณเข้าออกอยู่ แล้วที่ทางด้านขวาของเราจะมีกระดูกวางอยู่ ให้หยิบกระดูกตรงนั้นขึ้นมา แล้วเจ้าชายอเล็กซานเดอร์จะทำการเคาะกระดูกเป็นจังหวะเพลงขึ้นมา เมื่อเหล่าโครงกระดูกได้ยินเสียงเพลงเข้า ก็จะพากันเต้นรำอย่างสนุกสนาน ไม่เว้นแม้กระทั่งยมทูตก็พากันเต้นด้วย ส่งผลให้กุญแจที่ยมทูตถืออยู่ ได้กระเด็นมาตกที่ข้างตัวเรา ให้เก็บ "กุญแจ" แล้วยื่นบัตรผ่านทางเข้านรกให้กับยมทูตตัวที่อยู่ข้างหลัง (หน้าประตู) เราก็จะเข้ามาข้างในได้

+เข้ามาข้างในแล้ว เราจะพบกับซากศพของอัศวินคนหนึ่ง สำรวจที่ศพนั้นจะพบว่ามี "ถุงมือที่มีคำกลอนเขียนไว้" ที่แท้ซากศพนี้ก็คือผู้กล้าคนก่อนนั่นเอง และถุงมือที่เขาใส่อยู่ ก็คือสิ่งที่เขาใช้ท้าทายมัจจุราช ให้เก็บมาซะ แล้วเดินเข้าไปข้างในต่อไป


+ตอนนี้เราจะมาอยู่ที่นรกขุมที่ 1 นั่นก็คือ “แม่น้ำแห่งความตาย" ให้นำถ้วยน้ำชามาตักน้ำในแม่น้ำไว้ แล้วยื่นเหรียญทอง (ที่เก็บได้ในสุสานใต้ดิน) ให้กับคนแจวเรือ แล้วเขาจะพาเราข้ามแม่น้ำแห่งนี้ไป

+ต่อมาเราจะมาถึงนรกขุมที่ 2 นั่นคือ "ประตูปีศาจ" ให้เราใช้ไอค่อนรูปมือไปสำรวจที่ประตูแล้วมันจะกลายเป็นประตูปีศาจขึ้นมา ให้เราคุยกับมันแล้วมันจะถามปริศนาเรา ซึ่งถ้าเราตอบผิดมันจะกินเราทันที ให้ตอบว่า "LOVE" ก็จะสามารถผ่านเข้ามาข้างในได้


+เมื่อเข้ามาข้างในแล้ว เราจะมาเจอกับมัจจุราชนั่งอยู่ ให้เรายื่นถุงมือของผู้กล้าให้ยมทูตตัวซ้ายมือดู แล้วเขาจะพาเราเข้าไปหามัจจุราช เมื่อมาถึงตัวมัจจุราชแล้ว ให้เรายื่นถุงมือผู้กล้าให้
มัจจุราชดูพร้อมกับอ่านคำกลอนที่เขียนไว้บนถุงมือให้มัจจุราชฟังเป็นการท้าทาย แล้วมัจจุราชจะยอมรับคำท้า โดยเขาจะบอกว่าเขามีชีวิตอยู่มาเป็นเวลาหลายหมื่นปีแล้วยังไม่เคยร้องไห้ หรือเศร้าโศกเสียใจเลยสักครั้ง ถ้าเราสามารถทำให้เขาร้องไห้ได้ละก็ ถือว่าเราเป็นผู้ชนะ ให้เรายื่นกระจกวิเศษที่ได้มาจากเจ้าชายอสูรให้มัจจุราชดู เมื่อเขาเห็นใบหน้าของตัวเอง เห็นสังขารที่ล่วงโรยไปตามกาลเวลาแล้ว เขาจะเสียใจจนร้องไห้ออกมา แล้วเราจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งมัจจุราชก็จะทำตามสัญญา โดยคืนชีวิตให้กับพระราชาและราชินี แล้วม้าปีศาจจะปรากฎตัวออกมารับพวกเราทั้ง 3 คน แล้วพามาส่งยังชายหาดของเกาะแห่งกษัตริย์

+จากนั้นพระราชาและราชินีจะขอตัวออกไปรวบรวมสมัครพรรคพวก ให้เราไปที่โรงรับจำนำ เมื่อเข้ามาในร้านแล้ว เราจะพบกับจินนี่ในร่างของชายชุดดำอีกครั้ง ให้เราหยิบขวดยาที่เก็บได้จากหน้าทางเข้าวังบนเกาะพิศวง (ที่เขียนว่า Drink Me) ออกมาใช้กับตัวเอง แล้วเจ้าชายจะบ่นท้อแท้ในชีวิต เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปถ้าไม่มีเจ้าหญิงแคสซิมา แล้วเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ก็ดื่มยาในขวดนั้นลงไป แล้วก็ล้มตึงลงไป เจ้าของร้านจะรีบวิ่งมาดูอาการแล้วจะบอกว่าชีพจรของเจ้าชายหยุดเต้นแล้ว เมื่อเจ้าจินนี่ได้ยินดังนั้นก็จะดีใจมาก แล้วมันก็จะรีบกลับไปราบงานอุปราชเจ้านายของมันว่าเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ตายแล้ว ให้เราจำลักษณะของตะเกียงที่เจ้าจินนี่อาศัยอยู่ไว้ แล้วภาพจะตัดกลับมาที่โรงจำนำอีกครั้ง เจ้าชายจะฟื้นขึ้นมาแล้วบอกเจ้าของร้านว่าทั้งหมดเป็นแผนการณ์ที่ใช้หลอกเจ้าจินนี่

+จากนั้นให้เราแลกตะเกียงกับแปรงทาสีมา แล้วออกมานอกร้าน เอาตะเกียงไปแลกกับชายแก่ที่นั่งอยู่ แล้วเลือกเอาตะเกียงที่มีลักษณะเหมือนกับตะเกียงของเจ้าจินนี่มา
แล้วไปที่ปราสาททันที

+เมื่อมาถึงปราสาทแล้วให้เราเดินไปทางซ้าย เราจะมาอยู่ที่ข้างปราสาท ให้เราใช้ขนม้าสีดำกับถ้วยน้ำชา จะเป็นการใช้ขนม้าสีดำคนผสมน้ำที่อยู่ในถ้วยน้ำชาจนขนม้าสีดำกลายเป็นสีขาว

+จากนั้นให้เราใช้แปรงทาสีวาดรูปประตูที่กำแพงปราสาท แล้วเปิดหนังสือเวทย์มนตร์ไปที่หน้า "Magic Paint" แล้วร่ายคาถา ถ้าทำสำเร็จกำแพงที่ทาสีไว้ก็จะกลายเป็นประตูจริงๆ ให้เราเข้าไปข้างในได้

+เมื่อเข้ามาข้างในปราสาทแล้ว ให้เราเดินลงมาข้างล่าง แล้วเดินไปทางขวา จะพบกับประตูห้องๆหนึ่ง ให้เข้าไปข้างในจะเจอกับจอลโล คุยกับเขาแล้วเขาจะบอกเราเรื่องของเจ้าหญิงและจินนี่ ให้เราเอาตะเกียงที่แลกมายื่นให้กับจอลโล แล้วเขาจะอาสานำมันไปสลับสับเปลี่ยนกับตะเกียงของเจ้าจินนี่

+ออกจากห้องกับห้องของจอลโล แล้วเดินกลับไปตรงที่ๆเราเข้ามา จะมีทางซ้ายจะมีประตูอยู่1 บาน นั่นคือ "ห้องเก็บสมบัติ" และทางขวาจะมีประตูเรียงกันอยู่ 3 บาน นั่นคือคุก ให้เราเข้าประตูบานกลาง ภายในจะพบกับดวงวิญญาณของเด็กหลงทาง มอบผ้าเช็ดหน้าที่ได้มาจากแม่ของเด็กให้กับวิญญาณเด็ก แล้วเธอจะขอบคุณเราและจะบอกความลับเรื่องทางลับในปราสาทแห่งนี้ให้เราฟัง
เป็นการตอบแทน

+จากนั้นให้ออกจากห้อง แล้วเดินขึ้นไปทางด้านบนแล้วเลี้ยวขวา เมื่อขึ้นมาแล้วจะเจอกับรูปปั้น ให้เราไปขยับที่มือขวาของรูปปั้น แล้วทางลับก็จะเปิดออกมาให้เราเข้าไปได้ เมื่อเข้าไปในทางลับแล้ว จะพบกับรูเล็กๆอยู่ที่กำแพงด้านขวา ให้ไปดูที่รูนั้นจะทะลุไปยังห้องของเหล่าองครักษ์ ซึ่งพวกเขาจะคุยกันเรื่องรหัสผ่านทางของห้องสมบัติ แต่พวกเขาจะรู้แค่เพียงรหัสส่วนแรกเท่านั้น นั่นคือ "ALI"

+จากนั้นให้เดินขึ้นบันไดไปชั้นบน ก็จะเจอกับรูที่ผนังเหมือนเดิม เมื่อมองผ่านรูเข้าไปแล้วก็จะเจอกับเจ้าหญิงแคสซิมา แล้วเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ซานเดอร์ก็จะคุยจู๋จี๋อยู่กับเจ้าหญิงอยู่พักใหญ่ๆ จนกระทั่งเจ้าหญิงได้ยินเสียงใครบางคนกำลังใกล้เข้ามา ให้เรามอบดาบเอาไว้ให้เจ้าหญิงใช้ป้องกันตัว

+แล้วเดินมาทางซ้าย เดินตามทางเข้าไปเรื่อยๆ จะพบกับรูอยู่ที่ผนังทางซ้าย เมื่อมองผ่านรูเข้าไปก็จะพบห้องของเจ้าอุปราชตัวร้าย ซึ่งมันกำลังเขียนจดหมายสาธยายความชั่วร้ายของมันที่จะใช้เจ้าหญิงเป็นเครื่องมือใน
การขึ้นครองราชย์ และเมื่อมันได้ขึ้นเป็นกษัตริย์เจ้าหญิงก็จะหมดความหมาย แล้วให้เราเดินไปข้างในจนสุดทางแล้วสำรวจที่กำแพงทางด้านซ้าย แล้วทางลับก็จะเปิดให้เราเข้ามายังห้องอุปราชตัวร้ายได้โดยทะลุผ่านมาทางตู้เสื้อผ้า

+จากนั้นให้เราไปเปิดดูกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วจะเจอกับกระดาษแผ่นหนึ่ง ให้ใช้ไอค่อนดวงตาดูที่กระดาษแผ่นนั้น ก็จะพบกับข้อความว่า "ZEBU" ซึ่งเมื่อเอาไปรวมกับรหัสที่เราได้จากพวกองครักษ์แล้วเราก็จะได้คำว่า "ALIZEBU" ซึ่งรหัสคำนี้จะเป็นรหัสที่ใช้เปิดประตูห้องเก็บสมบัตินั่นเอง

+จากนั้นให้ใช้กุญแจที่เก็บได้ในนรก ไขเปิดหีบสมบัติที่วางอยู่ข้างเตียง แล้วจะได้ "จดหมายที่อุปราชเขียนไว้" ให้เราเก็บไว้เป็นหลักฐาน ออกจากห้องแล้วเดินออกจากทางลับลงไปชั้นล่าง คลิกที่ผนังที่เราเข้ามาประตูก็จะเปิดออกให้เราออกไปได้

+จากนั้นให้กลับไปที่ห้องเก็บสมบัติ (ตรงข้ามกับห้องที่เราเจอวิญญาณเด็ก) แล้วคุยกับประตูแล้วประตูจะถามรหัสเรา ให้ตอบ "ALIZEBU" เราก็จะเข้าไปข้างในได้ เข้ามาแล้วไปที่โต๊ะตัวใหญ่กลางห้อง ซึ่งมีผ้าคลุมอยู่ สำรวจที่นี่แล้วเราจะพบกับสมบัติล้ำค่าของเกาะทั้ง 5 ที่หายสาบสูญไป ที่แท้ก็เป็นแผนการของเจ้าอุปราชนี่เอง

+เมื่อออกจากห้องมาแล้ว เสียงดนตรีงานแต่งงานก็จะดังขึ้น ให้เรารีบไปที่ท้องพระโรงที่อยู่ชั้นบนของปราสาท โดยทางไปยังท้องพระโรงนั้นจะอยู่ตรงข้ามกับห้องของจอลโล แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปยังท้องพระโรงนั้น กัปตันซาลาดินจะออกมาขัดขวางเรา ให้เราเอาจดหมายของอุปราชยื่นให้เขาดู แล้วกัปตันซาลาดินก็จะตาสว่าง แล้วเขาจะพาเราเข้าไปในงาน

+เมื่อเข้ามาแล้ว ให้รีบหยุดพิธีโดยการคุยกับเจ้าหญิงแคสซิมา แต่ว่าเธอกลับสั่งให้กัปตันซาลาดินฆ่าเราแทน ระหว่างที่กัปตันซาลาดิกำลังลังเลอยู่นั้น พระราชาและราชินีก็จะเข้ามาช่วยห้ามไว้ได้ทันเวลา พร้อมทั้งช่วยกันเปิดโปงแผนการร้ายของอุปราช และแท้ที่จริงแล้วเจ้าหญิงแคสซิมาที่อยู่ในงานนี้ก็คือเจ้าจินนี่ปลอมตัวมานั่นเอง เมื่อแผนแตกเจ้าอุปราชตัวร้ายก็จะรีบวิ่งหนีออกประตูด้านหลังไป ให้เรารีบตามมันไป (ถ้ามัวชักช้า เจ้าจินนี่จะปรากฎตัวขึ้นมาทำร้ายพวกเราทีละคน)

+เมื่อตามอุปราชไปจนถึงชั้นบนสุด เจ้าจินนี่จะปรากฎตัวขึ้นมาช่วยเหลืออุปราชได้ทันท่วงทีแต่ขณะที่เจ้าจินนี่กำลัง
ร่ายคาถาจัดการเราอยู่นั้น จอลโลได้วิ่งเอาตะเกียงของจินนี่ที่สับเปลี่ยนมาให้กับเรา ให้เรารีบใช้ตะเกียงนั้นเรียกเจ้าจินนี่กลับเข้าไปอยู่ข้างในซะ แล้วเจ้าอุปราชจะตรงเข้ามาทำร้ายเรา ให้เรารีบหยิบ "ดาบ" ที่แขวนอยู่บนผนังด้านหลังจัดการกับมัน แต่ด้วยความหนักของดาบทำให้เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ตกเป็นรองเล็กน้อย เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาได้สักพัก เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ก็จะเสียท่าเจ้าอุปราช แต่เจ้าหญิงแคสซิมาได้วิ่งเอาดาบมาแทงอุปราชจากข้างหลัง ทำให้มันชะงัก จังหวะนี้ให้เรารีบให้ดาบจัดการมันซะ (ระหว่างที่เจ้าชายกำลังดวลดาบอยู่ ให้เอาเคอร์เซอร์เมาส์ไปจี้ไว้ที่ตัวอุปราชเลย จะได้ฟันมันได้ทันทีเวลาที่มันชะงัก) จากนั้นก็จะพบกับฉากจบอันสวยงาม...

+ฉากจบ แบบที่ 2+
+เมื่อช่วยเจ้าชายอสูรให้พ้นคำสาปได้แล้ว ให้วาร์ปกลับไปที่เกาะแห่งกษัตริย์ แล้วไปที่โรงรับจำนำ แล้วเอาตะเกียงแลกกับนกไนติงเกลปลอมมา ออกจากร้านแล้วไปที่ปราสาท เมื่อมาถึง จะพบว่ามีเกณฑ์หญิงชาวบ้านมามากมาย เพื่อให้เข้าไปช่วยงานแต่งงานในปราสาท ดังนั้นวิธีที่เราจะลอบเข้าไปได้ง่ายที่สุดคือปลอมตัวเป็นผู้หญิงเข้าไป โดยให้เราใช้เสื้อผ้าของสาวคนใช้ที่เจ้าชายอสูรให้มา ที่กระโจมเล็กๆที่อยู่หน้าปราสาท แล้วเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ก็จะปลอมตัวเป็นหญิงชาวบ้านเข้ามาในวังได้

+เมื่อเข้ามาแล้ว ให้เดินขึ้นบันไดทางด้านซ้ายของจอ เมื่อขึ้นไปจะเจอกับทหารยาม 2 คนเดินไปมาอยู่ เมื่อพวกเขาเดินกลับขึ้นไปทางด้านบน ให้เรารีบเดินเข้าไปหลบในซอกกำแพงที่เว้าเข้าไปทางด้านขวา ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับประตูห้องหนึ่งพอดี เมื่อเข้ามาหลบที่นี่แล้ว ให้ไปแอบอยู่ข้างหลังเสา (วิธีแอบคือ คลิกที่ไอค่อนรูปมือกับเสา เราก็จะเข้าไปแอบอยู่หลังเสาได้) เมื่อทหารยามเดินผ่านไป แล้วเดินกลับขึ้นมาทางด้านบน (หันหลังให้เรา) จังหวะนี้ให้รีบเดินออกมาที่ทางเดินที่ปูพรมสีแดง แล้วกดใช้นกไนติงเกลที่ทางเดินนี้ แล้วรีบเดินกลับไปแอบที่หลังเสาต้นเดิม พอพวกทหารยามได้ยินเสียงนกไตติงเกลปลอมแล้วพวกเขาก็จะนำนกไนติงเกลปลอมไปปล่อย

+ตอนนี้ให้เรารีบยกภาพที่แขวนอยู่บนผนังลงมาวางกับพื้น แล้วดึง "ตะปูที่ใช้แขวนภาพ" ลงมา แล้วรีบเดินออกไปทางด้านบน แล้วเลี้ยวขวา ก็จะได้ยินเสียงร้องของเจ้าหญิงแคสซิมา ให้คุยกับเธอ (ใช้ไอคอนคุยที่ประตู) ผ่านทางประตู แล้วมอบดาบไว้ให้เธอใช้ป้องกันตัว โดยวางลอดผ่านทางใต้ประตู

+จากนั้นให้เดินกลับมายังประตูห้องที่อยู่ตรงข้ามกับจุดที่เราใช้ซ่อนตัวจากพวกทหาร
ยาม แล้วเข้าไปข้างใน ซึ่งที่นี่ก็คือห้องของเจ้าอุปราชตัวร้ายนั่นเอง แล้วใช้ตะปูที่เก็บได้ไขเปิดหีบสมบัติที่อยู่ติดกับเตียงจะเจอ "จดหมายที่เจ้าอุปราชได้เขียนถึงแผนการอันชั่วร้ายของมัน" อยู่ ให้เก็บมาซะ แล้วออกไปจากห้องนี้

+กลับไปยังจุดที่เราใช้ซ่อนตัวอีกครั้ง แล้วเราจะได้ยินเสียงทหารยามกำลังเดินกลับมา ให้รีบใส่ตะปูและวางรูปภาพกลับยังตำแหน่งเดิม แล้วรีบไปแอบที่หลังเสา พอพวกทหารยามเดินผ่านขึ้นไปทางด้านบน (หันหลังให้เรา) จังหวะนี้ให้รีบออกมาแล้วเดินลงมาด้านล่าง แล้วไปที่ท้องพระโรง (ประตูสีแดงตรงกลางห้อง) ซึ่งพิธีแต่งงานของเจ้าอุปราชและเจ้าหญิงแคสซิมากำลังจะเริ่มขึ้น แต่ก่อนที่เราจะเข้าไป กัปตันซาลาดินจะออกมาขัดขวางเราเสียก่อน ให้เราเอาจดหมายของอุปราชให้กับตันซาลาดินดู แล้วเขาจะตาสว่างและจะยอมปล่อยเราเข้าไปในงาน

+เมื่อเข้ามาแล้วให้หยุดพิธีแต่งงาน โดยการคุยกับเจ้าหญิงแคสซิมา (ซึ่งตอนนี้จะเป็นภาพอนิเมชั่น) แต่ทว่าเจ้าหญิงกลับสั่งให้กัปตันซาลาดินฆ่าเราเสีย ให้รีบเอากระจกวิเศษที่เจ้าชายอสูรให้มาส่องหน้าเจ้าหญิงซะ แล้วภาพที่ปรากฎในกระจกวิเศษจะเป็นภาพของเจ้าจินนี่ (ถ้าช้าเกินไปจะโดนกัปตันซาลาดินฆ่าตาย) ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเจ้าหญิงแคสซิมาที่อยู่ในงานนี้ก็คือเจ้าจินนี่แปลงร่างมานั่นเอง เมื่อแผนแตก เจ้าอุปราชตัวร้ายก็จะรีบวิ่งหนีออกทางประตูหลังไป ให้รีบตามมันไป (ถ้ามัวช้า เจ้าจินนี่จะปรากฎตัวขึ้นมาทำร้ายพวกเราทีละคน)

+เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบนของปราสาทแล้ว เจ้าจินนี่จะตามมาช่วยอุปราชเจ้านายของมันได้ทันท่วงที ระหว่างที่มันกำลังร่ายคาถาจัดการเราอยู่นั้น ให้เราใช้ใบเปปเปอร์มินต์จัดการกับมัน แล้วมันก็จะถูกทำลายไปด้วยคาถาของมันเอง

+จากนั้นเจ้าอุปราชจะเข้ามาจัดการกับเรา ให้รีบหยิบดาบที่แขวนอยู่บนผนังด้านหลังมาสู้กับมัน เมื่อสู้ไปได้สักพักเจ้าชายอเล็กซานเดอร์จะเสียท่า แต่เจ้าหญิงแคสซิมาจะวิ่งเอาดาบมาแทงข้างหลังของเจ้าอุปราช ทำให้มันชะงักไป จังหวะนี้ให้รีบใช้ดาบจัดการกับมันซะ ก็จะได้พบกับฉากจบอันสวยงาม แต่ออกจะดูเงียบเหงาสักเล็กน้อย...


-T H E E N D-


+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์
http://www.oldgames.sk/en/games.php?extra=752
http://www.abandonia.com/en/games/119/King...e+Tomorrow.html
http://www.gamespot.com/pc/adventure/kings...9AJsx5w7h-U5xzh

+ท่านใดประสงค์จะนำ Walkthrough KING'S QUEST VI - Heir Today Gone Tomorrow ฉบับสมบูรณ์นี้ไปลงที่เว็ปไซต์อื่น กรุณาขออนุญาตผู้เขียนก่อนนะคะ . . และอย่าลืมลงนามเครดิตผู้จัดทำ และบอร์ด DGO เพื่อเคารพเจ้าของผลงานด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

Edited by rbgel, 28 September 2009 - 06:22 PM.


#2 13evils

    นักเล่นเกมมือใหม่

  • Members
  • Pip
  • 7 posts
  • Gender:Male

Posted 12 June 2009 - 01:08 AM

โอ้วขอบคุณครับ

ชอบมากครับเกมส์นี้