0
Smokin' Ace - ดวลเดือด ล้างเลือดมาเฟีย
"May the best hitman win"
+กับ Smokin' Ace แม้จะไม่ใช่หนังดราม่าว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับตำรวจโดยตรง แต่ว่าก็ยังคงวนเวียนอยู่ในโลกของอาชญากรรม โดยผู้กำกับ "โจ คาร์นาแฮน" ที่ครั้งหนึ่งเคยเข้าชื่อเป็นว่าที่ผู้กำกับของ M:I 3 มาแล้ว ได้เติมอารมณ์ขันในเชิงเสียดสี และตลกร้ายใส่เข้ามา ทำให้หนังดูมีสีสันมากขึ้น ในขณะเดียวกัน Smokin' Ace ก็ยังคงมีความดุดัน หนักแน่น และจริงจังอยู่ในตัวไม่น้อย . .
+เมื่อ "บัดดี้ 'เอซ' อิสราเอล" นักมายากลระดับซูเปอร์สตาร์ของลาส เวกัส และผู้มีอิทธิพลใหญ่ระดับน้องๆมาเฟีย ตัดสินใจหักหลังผู้มีพระคุณคนสำคัญอย่าง "พรีโม่ สปารัซซ่า" ด้วยการยอมเป็นพยานให้กับเอฟบีไอ ซึ่งจะทำให้สปารัซซ่า พร้อมกับพลพรรคต้องถูกจองจำในเรือนจำ หายนะก็เข้ามาเยือนบัดดี้ . .
+เมื่อเขาถูกตั้งค่าหัวไว้ที่หนึ่งล้านเหรียญ ทำให้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของบรรดานักล่าค่าหัวทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น สองสาวผิวสี "จอร์เจีย ไซคล์ และซาริซ วัทเทอร์ส" , สามพี่น้องนีโอนาซีตระกูลเทรเมอร์ส , แจ็ค ดูพรี และพรรคพวกล่าเงินประกัน . .
+แล้วกับการเลือกตัดสินใจของบัดดี้ ก็ยังไปกระทบใจบรรดาลูกน้องที่จกรักภักดีกับเขามาตลอดอย่าง "ไอวี่" ที่ถูกสึกว่าตัวเองกำลังถูกลอยแพ . .
+งานนี้เพื่อที่จะให้พยานปากสำคัญขึ้นให้การได้สำเร็จ . . เอฟบีไอภายใต้การนำทีมของ "โดนัลด์ คาร์รูเธอร์" และคู่หูรุ่นน้อง "ริชาร์ด เมสเนอร์" ต้องพยายามป้องกันชีวิตของบัดดี้เอาไว้ให้ได้ โดยแผนการทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การควบคุมของรองผอ.เอฟบีไอ "ล็อค" อีกทีหนึ่ง . .
+ทั้งหมดล้วนมุ่งหน้าตรงไปยังเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของโนแมด คาสิโน ที่ซึ่งบัดดี้ 'เอซ' อิสราเอลและพวกพ้องหลบซ่อนอยู่ โดยมีหน่วยรักษาความปลอดภัยของคาสิโนเฝ้าให้การอารักขาเต็มที่ อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เพนท์เฮ้าส์ของโนแมด คาสิโน จะกลายเป็นสมรภูมิขนาดย่อมๆ . .
+คาร์นาแฮน เปิดเรื่องของ Smokin' Ace ออกมาในอารมณ์แบบเดียวกับหนังอาชญากรรมสไตล์กาย ริชชี่ หรือเควนติน ทาแรนติโน่ ที่มาพร้อมกับตัวละครมากมายไล่เรียงกันมาเป็นชุดๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มแต่ละตัวละครก็ล้วนเต็มไปด้วยสีสัน และแบ็คกราวนด์เล็กๆน้อยๆที่ต้องมี เพื่อช่วยเพิ่มเติมความน่าสนใจ . .
+ไม่ว่าจะเป็นยอดนักฆ่าที่ถึงกับยอมกัดนิ้วตัวเอง เพื่อที่จะไม่สามารถพิมพ์รอยนิ้วมือได้ , สองมือสังหารสาว ที่เห็นได้ชัดเลยว่าฝ่ายหนึ่งนั้นมีใจให้กับอีกฝ่ายในแบบที่ไม่ใช่เพื่อนรักเพื่อน หรือความสัมพันธ์ของสองเอฟบีไอต่างรุ่น คาร์รูเธอร์ส และเมสเนอร์ ที่ฝ่ายแรกเปรียบได้กับอาจารย์ , พ่อ และเพื่อนรุ่นพี่ ซึ่งตัวละครสองตัวนี้ก็คือองค์ประกอบสำคัญ สำหรับการสร้างส่วนที่เป็นดราม่าให้กับหนัง . .
+หนังหว่านตัวละครชุดใหญ่ออกมาแบบรวดเดียวเทหมดหน้าตัก พร้อมกับใส่อารมณ์ขันเชิงเสียดสีเข้ามาเป็นชุด โดยนำเสนอผ่านงานเทคนิคด้านภาพที่ดูหวือหวาในสไตล์มิวสิควิดีโอ แม้อาจจะดูสับสน วุ่นวาย หรือดูอืดๆชวนทำให้ซึมอยู่บ้าง แต่กับคนดูบางกลุ่มที่คุ้นเคยกับแนวของทางหนังแบบนี้แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องที่ยากสำหรับการติดตามแต่อย่างใด . . หลังเปิดม่านเห็นหน้าตัวละครมากันครบ หนังก็ขมวดเรื่องราวให้พุ่งตรงไปสู่เพนท์เฮ้าส์หรู ที่โนแมด คาสิโน ซึ่งเป็นเป้าหมายของตัวละครทุกตัวทันที . . และความสนุกของหนังก็เริ่มต้นจากวินาทีนี้ . .
+เมื่อตัวละครแต่ละตัวล้วนพยายามแสดงกลเม็ดเด็ดพรายทุกอย่าง ที่จะทำให้ตัวเองเข้าไปให้ถึงตัวของบัดดี้ 'เอช' อิสราเอลให้เร็วที่สุด ต่างคนก็ต่างวิธีการ ต่างกันไปตามเทคนิคความเชี่ยวชาญ แต่ทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน . .
+หนังดูลุ้นสนุกว่าใครกันแน่ที่จะไปถึงตัวของบัดดี้ได้เป็นคนแรก ในขณะเดียวกันก็ต้องมาลุ้นให้เหนื่อยกันต่อว่า ทีมเอฟบีไอจะเดินทางมาช่วยพยานปากสำคัญคนนี้ทันหรือไม่ . . โดยมีจุดนัดพบโดยบังเอิญของตัวละครแต่ละกลุ่ม แต่ละราย เป็นไฮไลท์หยอดเข้ามาเป็นจังหวะๆ ทำให้หนังมีความตื่นเต้นเป็นระยะๆ . .
+ฉากแอ็คชั่นของหนังดูดุดันและจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นฉากดวลกันในลิฟต์ หรือหน้าลิฟต์ และเมื่อผสมอารมณ์ขันเข้ามาในฉากเหล่านี้ หนังก็ไม่เสียจังหวะของตัวเอง . . แล้วกับมุขเน้นขายฮา ก็ถูกหยอดเข้ามาในหนังแบบถูกเรื่องถูกราว ไม่ว่าจะเป็นมุขเจ้าหนู คาราเต้ คิด หรือว่าฉากเปิดตัวของแก๊งนีโอนาซี ที่ล้วนเนียนและเข้ากับหนังได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีนัยเสียดสีอยู่ในตัว . .
+กับมุขที่หนังใช้ ก็ไม่ใช่แค่มุขที่ถูกร้อยใส่เข้ามา เพื่อให้หนังได้มีส่วนหัวเราะ โดยที่ไม่คำนึงถึงว่ามันจะมาแบบเข้ากันกับหนัง หรือว่าแค่จับๆใส่มาก็พอ แบบที่เห็นๆกันจากหนังหลายๆเรื่อง ที่มุขฮาๆ มักจะเป็นส่วนเกินของหนังอยู่เรื่อยๆ . .
+แต่หากนำไปเปรียบกันกับหนังอย่าง Pulp Fiction หรือว่า Reservoir Dogs ของเควนติน ทาแรนติโน่ ไล่ไปจนถึง Snatch และ Lock, Stock And Two Smoking Barrels ของกาย ริชชี่ . . มุขของ Smokin' Ace ดูออกจะแข็งและทื่ออยู่บ้าง และถ้าไม่จับไปเปรียบกัน มองในภาพรวมๆ ก็ถือว่า ใน Smokin' Ace นั้น ยังเหนือกว่าที่หนังหลายๆเรื่องพยายามเป็นอยู่หลายขั้น . .
+ส่วนที่น่าสนใจก็คือ การไล่อารมณ์ในฉากแอ็คชั่นของ Smokin' Ace ที่สามารถต้อนคนดูไปสู่จุดขีดสุดได้พอดิบพอดี
ด้วยการค่อยๆเติมความน่าตื่นเต้น ความสะใจ ในฉากเหล่านี้เข้าไปทีละน้อย . . คาร์นาแฮนไม่ได้วางจังหวะของฉากแอ็คชั่นเหล่านี้ไว้สะเปะสะปะ หากเน้นวางตามจังหวะที่หนังควรจะเป็น
+แล้วในช่วงเวลาที่คนดูกำลังลุ้นสนุกกับการวิ่งแข่งกันของบรรดานักล่าสังหาร หนังที่ดูเหมือนจะเป็นหนังแอ็คชั่นตามล่า เอามันส์ผสมอารมณ์ขันแบบแปลกๆเพียงอย่างเดียว ก็ถูกเติมจุดหักมุมของเรื่องลงมา ทำให้หนังดูดีขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง และเป็นจุดพลิกผันที่ถ้าย้อนไล่ไป ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นปมที่หนังปูเอาไว้แล้วมาตั้งแต่ต้น เพียงแค่ "ล่อ" และ "หลอก" คนดูให้หลงทาง
+ซึ่งกับตัวละครบางตัวในหนังเอง ก็ตกอยู่ในสถานภาพเดียวกันกับคนดู นั่นก็คือถูก "หลอก" จนหัวปั่นเหมือนๆกัน . . ซึ่งเมื่อถึงจังหวะที่หนังเฉลยออกมา หลายๆคนก็ถึงบางอ้อไปพร้อมกัน . .
+หากจะมีที่เป็นจุดโหว่ใหญ่ๆสำหรับ Smokin' Ace ก็คงจะไม่พ้นในส่วนของอารมณ์ดราม่า ที่หนังวางจังหวะในการใส่ และสร้างออกมาได้ไม่ดีพอ . . อารมณ์ในส่วนนี้ของหนังจึงดูไม่ลึก และไม่ช่วยให้คนดูรู้สึกอะไร ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของสองนักฆ่าสาว หรือว่าความสัมพันธ์ของสองเอฟบีไอต่างรุ่น ที่หนังพยายามชูให้เป็นด้านอารมณ์ . .
+แต่เมื่อทำได้ไม่ลึกพอและน้อยไป ก็เลยพาความรู้สึกและอารมณ์ของคนดูไปได้ไม่ถึงไหน . . ถ้ามองข้ามว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ็คชั่น จะยกประโยชน์ในส่วนนั้นให้ไปเลยนั้น ก็คงไม่ได้ เพราะความอ่อนน้ำหนักในส่วนที่ว่า ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ฉากจบของ Smokin' Ace ไม่แรง และสะใจได้อย่างที่ควรจะเป็น . .
+อาจจะไม่ได้เต็มร้อย แต่ก็พอจะยกย่องได้ว่าเป็นแอ็คชั่นฉลาดเรื่องหนึ่งได้เหมือนกัน ไม่ใช่หนังแอ็คชั่น "พยายามฉลาด" แบบหนังอีกหลายๆเรื่องที่มีเข้ามาให้ดูกันกลาดเกลื่อนเกือบทั้งปี . .
+ให้ 2 ดาวครึ่งค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว)
+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1199.html ค่ะ
QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ 
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+ +
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+ ++อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ+
QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ
+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ
+ดูหนังให้สนุกนะคะ+
Edited by rbgel, 16 December 2009 - 03:48 PM.
