10 replies to this topic

[leawnano]

แค่อยากพิมพ์ไม่มีอะไรมากถือว่าพิมพ์ความรู้สึกตัวเองที่ไม่ได้พิมพ์มานาน

สมัยก่อนรุ่นพ่อแม่ผม ไม่ว่าจะจบ ราชรัฎ หรือจบ มหาลัยเกรด 3 บ้านฐานะไม่ดี สามารถ มีความมั่งคั่ง หรือ ต่อสู้จนมีฐานะร่ำรวยได้ หากขยันและถูกทาง ในระดับนึง แน่ๆคือไม่อดตาย

จากข่าวนี้

https://workpointtod.../explainer0920/

และข่าวนี้

https://mgronline.co...l/9640000097431


ทำให้ผมได้ฉุกคิดในใจลึกๆว่า ต่อไปเราจะโดนกินรวบหมด
เนื่องจากลงทุนอสังหาในไทยมานาน และ ทำธุรกิจด้วยส่วนตัวทำเกินกว่า 10 ปี++
ช่วงเวลา น่าจะเป็นไม้สุดท้ายของความมั่งคั่งและการสร้างตัว ของตัวเราและลูกหลานเราแล้วเพราะต่อไปของพวกนี้จะอยู่ในมือทุนหนาหมด ต่างชาติหมด เพราะตอนนี้ คนไหนปรับตัวรวยได้ถีบตัวไปหมดแล้ว หรือไม่ก็ย้ายประเทศ บางส่วน

ประเทศไทยเองไม่มีเทคโนโลยีอะไรที่เป็นชั้นนำเลย เป็นประเทศขายแรงงาน กับ ท่องเที่ยวล้วนๆเลยปัจจุบัน


ปัจจุบันการทำมาหากินในไทย ถือว่าลำบาก มองจากคนรอบตัวที่ทำธุรกิจ SME เล็กสุด 10 ล้าน มากสุด หลายร้อยล้าน เพราะเจอทุนจีนมาขายตัดราคา แบ่งกำไรไปหมด แถมเจอโควิท รัฐบาลที่มีปัญหามากๆอยู่ตอนนี้


สำหรับชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง สำหรับผมถือว่าตันแล้วจบแล้ว เพราะไม่มีอะไรไปแข่งได้เลย ทั้งต้นทุนและการศึกษาจากความรู้สึกของผมในระดับนึงเลยถ้าไม่มีทุน ไม่มีการศึกษาที่ดี ไม่รอด
ปัจจุบันใครเรียนมหาลัยเกรด C หรือ D+ ขึ้นไป เรียกว่าชีวิตนี้จะลืมตาอ้าปากไม่ได้เลย เรียนว่าจบมาเหมือน จบแค่ ม.6 ถ้าอยากรวยต้องค้าขายอย่างเดียว แต่ก็นั้นและปัจจุบันมีแต่พ่อค้าแม่ค้า ขายของซ้ำๆกันไปๆมา

เพราะต้นทุนเรียนเยอะมากแถมจบมาไม่คุ้มกับค่าปริญาเสียอีก จบมาก็ขายแรงงานดาดๆกันไป เพราะต้นทุนการศึกษาสู้พวกจบมหาลัยชั้นนำไม่ได้หรือจบนอกไม่ได้ เลย เว้นแต่ความสามารถพิเศษจริงๆ

ผมไม่นับอาชีพ youtube tiktok นะ เพราะพวกนี้สำเร็จจริงๆ แค่พวก ไม่เกิน 5% ของอาชีพ เพื่อนๆคิดยังไงกันบ้างครับ นาทีนี้ มองยังไงอีก 10-30 ปีข้างหน้า

Edited by leawnano, 03 October 2021 - 02:59 PM.

[aspirin]

ยุคสมัยจะมีความเหมาะสมของมันเอง รุ่น พ่อแม่เราเป็นอีกแบบ รุ่นลูกเป็นอีกแบบ รุ่นหลานเป็นอีกแบบ โลกมันไปเร็วกว่าที่คิด ผมกล้าพูดเลย นิสัยพื้นฐานของคนไทยเดิมๆ มันจะใช้ไม่ได้แล้ว ถ้าอยากจะเจริญก้าวหน้าในชีวิต ต้องไปเห็นโลกเห็นโอกาสใหม่ๆ โอกาสมีอยู่ทุกที่ อยู่ที่เราจะหามันเจอไหม ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน คำขวัญฝังหัว ผมมาตลอด สุดท้าย เสียเวลา เสียโอกาส มีโอกาสอย่ารีรอที่จะคว้า เหยียบย้ำ แย่งชืง ด้านได้อายอด อย่าขาวและตำให้เทาๆ ถึงจะอยู่รอด อย่าเต็มที่กับใคร 100 แล้วคิดว่าเขาจะให้มา 100 คืน (อันนี้จากชีวิตจริงเลย) นอกจากพ่อแม่ พี่น้องแล้ว คนอื่นหมดประโยชน์เมื่อไหร่ ความสัมพันธ์เปลี่ยนแน่นอน มหาลัยไม่ใช่ไปเรียนแต่ไปใช้ชีวิต ไปหาโอกาส เกรดมันก็แค่ตัวเลข อาจารย์รุ่นผมสอนเสมอว่า พอออกไปเจอสังคมเมื่อไหร่ เราจะโตขึ้นเอง อยู่ที่ว่าจะถอยหลัง อยู่กับที่ หรือก้าวหน้า

[Gamerb]

คิดเหมือนกันครับในเรื่องบุกเบิกธุรกิจใหม่ หรือสร้างสิ่งใหม่ๆมาขายน่าจะลำบากมากเพราะสู้พวกนายทุนใหญ่ๆ ได้ลำบาก
แต่ผมก็เชื่อว่าทุกยุคสมัยก็มีวิธีสร้างตัวในแบบของมัน คนเก่งมีที่ยืนเสมอไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหนก็ตาม
เพียงแต่เราต้องปรับตัวให้ทันและไวกว่าคนอื่น

เช่น น้องที่รู้จักพึ่งจบไม่นานสามารถเทรดคริปโตทำกำไรได้หลัก 5000-10000 เหรียญต่อเดือนทั้งๆที่บ้านก็ไม่ได้รวยอะไรเลย
ลงทุนตอนแรกก็เพียงน้อยนิด เพียงแต่เข้าให้เร็วในจังหวะที่ควรเข้า ออกให้เร็วในจังหวะที่ควรออก

เหมือนคำคมของ Charles Darwin ที่ผมชอบมาก
"It is not the strongest species that survive, nor the most intelligent, but the ones most responsive to change."

~Charles Darwin~

[Good........]

ต้องปรับตัวกันทุกระดับครับ โลกหมุนไว และ เหวี่ยงแรง ใครอยู่กับที่ จะตกขนาบรถเร็วมาก มีอาชีพใหม่ๆเยอะ แต่สำเร็จน้อย ค้าขายเหนื่อย แต่ถ้าค้าขายถูกจุด แล้วบริหารดีๆ 1-3ปี เกณีษณเลยนะครับ

[Xpert]

ทุนนิยมกับโลกาภิวัตน์ ที่อาจจะดีเลย์กว่าชาวบ้านหน่อย แต่ของเรากำลังได้รับมันมาแบบเต็มสูบในตอนนี้

ยุคนี้อะไรหลายอย่างมันโดน disrupt จริง ๆ แหละครับ แถมไวมากด้วย คนค้าขาย ลูกค้ากดคลิกเดียวก็แทบจะรู้แล้วว่าราคากลางเท่าไหร่ ขายแพงกว่าปกติแทบจะไม่ได้เลยถ้าเป็นของชิ้นเล็ก ๆ หลายอย่างสั่งจากจีนได้ถ้าเห็นว่าราคาบ้านเราขายแพง เมื่อก่อนรอนานกับของหายง่าย เด๋วนี้เร็วมากและไม่ค่อยหายด้วย

บ้านเรามันมีปัญหาเรื่องกับดักรายได้ปานกลางมานาน คือเราทำอะไรได้แค่ระดับกลาง ๆ ขยับไประดับสูงยืนได้ด้วยตัวเองไม่ได้สักที ทั้งที่ผมรู้สึกว่าบ้านเรามีศักยภาพสูงนะแต่ยืนด้วยตัวเองไม่ขึ้นสักที พวกเทคโนโลยีขั้นสูงก็ได้แต่รับจ้างเขาผลิต ส่วนต่างก็ไม่ได้เยอะอะไรเล่นตัวมากก็ไม่ได้ไม่งั้นเขาก็ย้ายฐานไปที่อื่นอีก ความหวังตอนนี้คือสตาร์ทอัพทั้งหลายมั้ง

ส่วนเรื่องการตั้งตัวอะไรพวกนี้ ผมว่ารุ่นล่าสุดที่มีโอกาสแบบเหน่ง ๆ คือเจนเอ็กซ์ทั้งหลายนะ ด้วยเหตุการณ์หลายอย่าง เจนหลังจากนั้นตอนนี้ไม่ง่ายเท่าไหร่ที่จะยืนได้เต็มแข้งเต็มขา จบมาเจอแฮมเบอเกอร์ กำลังจะยืนเจอโควิด นี่หมดโควิดมีเรื่องเบี้ยวหนี้รออยู่ 555 โอกาสมีตลอด (คริปโต?) แต่หาช่องอาจไม่ง่ายเท่าไหร่

[kirari]

ปลงครับ ยอมใจคนกล้ามีลูก

[ToonZa]

ในฐานะที่ทำงาน IT ในธนาคารแห่งนึงและเคยทำงานที่ SCB ผมว่าการแยกส่วนของ SCBX ในมุมของธนาคารอื่นๆก็ขยับอยู่แล้วครับ สังเกตว่าแต่ละธนาคารจะมีบริษัท IT แยกออกมาเป็นอีก บริษัท อยู่แล้ว แต่ไม่เด่นชัดเท่าที่ SCB ทำ
เพราะอย่างไรเรื่องข้อจำกัดของการทำธุรกิจการเงินจะถูกควบคุมโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งกฎระเบียบยุบยับ ขยับอะไรค่อนข้างลำบาก ไหนจะพวกค่าธรรมเนียมที่แทบจะเก็บไม่ได้เพราะนโยบายใช้งาน digital ต้องฟรีค่าธรรมเนียม ทั้งๆที่ธนาคารยังมีค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม หันไปมองหาธุรกิจอื่นๆที่ไม่ใช่สถาบันการเงินน่าจะรุ่งกว่า เพราะอย่างไรเสีย ระบบหรือโปรแกรมที่ออกแบบมาใช้กับพวกสถาบันการเงินยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจอื่นๆได้แน่ๆ และบางธนาคาร ในส่วนของบริษัท IT ที่แยกออกมาก็ไปรับวางระบบให้หน่วยงานหรือภาคเอกชนอื่นๆด้วยครับ เช่น KTB ที่มี KTBCS ไปวางระบบ Cloud Service เป็นต้น

ในส่วนของเด็กรุ่นใหม่จะโดนทิ้งขาดไหมเป็นเรื่องของอนาคต อย่างผมมีลูก 2 คน ก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันว่าเค้าจะโตไปในด้านไหน ได้แต่สนับสนุนอะไรที่เค้าทำแล้วชอบเพราะยังเล็กอยู่ เหมือนอย่างตัวผมที่เป็นเด็ก ตจว เรียนจบมหาลัย ตจว ที่ไม่ได้ดังมาก จบมาหางานทำกรุงเทพก็อยู่ได้ มีบ้าน มีรถ ผมก็ต้องขวนขวาย พัฒนาตัวเองเสมอๆ ในฐานะพ่อแม่คงพยายามทำงานเก็บเงินให้ลูกส่วนนึง แต่ลูกๆจะทำอะไรในอนาคต ก็คงต้องแล้วแต่เค้า เราทำได้แค่สนับสนุนครับ

[X-Sy]

อย่างน้อยยุคนี้พวกค้าขายกะฟันหัวแบะ ตอนนี้แทบทำไม่ได้ ร้านไหนฟันลูกค้า ไม่นานข้อมูลไปโผล่ในเนตยอดลดฮวบ ๆ ส่วนค้าขายที่อยู่ได้ และยังไปได้คืองานขาย+งานบริการ อย่างลืมว่าสินค้าสั่งออนไลน์จากไหนก็ได้ แต่ถ้าเป็นสินค้าที่จะต้องติดตั้ง ที่จะต้องมีงานฝีมือเข้ามาพ่วง หรืองานบริการหลังการขายพ่วง พวกนี้อยู่ได้ และยังเรียกราคาที่ดีได้ถ้าบริการดี ส่วนงานที่เป็นวิชาชีพ มีข้อกฎหมายรับรองน่าจะอยู่ได้ จะวิศวกรที่จะต้องเซ็นต์แบบ แพทย์ หมอฟัน สถาปนิก บัญชีที่มีใบอนุญาตผู้ตรวจบัญชี ยังไงก็อยู่ได้นั่นแหละ กฎหมายบังคับซะอย่างนั้น

[asdc]

เดวต่อไป มันก้อมีหนทางดิ้นรนเองแหละ ไม่จนหนทางหรอก

[joamz3]

โควิคทำให้หลายธุรกิจ บังคับให้ปรับตัวครับ

เอาง่ายๆ เราจะไม่เห็นร้านไหนขายของฟันกำไรชนิดที่คนซื้อเป็นหมูอีกต่อไป เพราะโชปี่ ลาซาด้าหรือเฟสบุค ถ้าไม่ปรับ รอให้คนวอคอินมาซื้อ ก็ยอดหายเกิน50-80% จนต้องปิดร้านไปแน่ๆ

แน่นอน คนที่มีทุนกว่าในปัจจุบันย่อมได้เปรียบกว่าจริงๆ เพราะมีโอกาส ทั้งล้มและ ลุก ล้มแล้วมีครอบครัวคอยอุ้มก็โชคดีไปครับ

เอาง่ายๆ คนยุคผม อายุใกล้40 เมื่อ 3 ปีก่อน ผมลงทุนเครื่องขุด eth กับการ์ดจอ มี15ริค การ์ดจอริคละ 6-8ใบ ปีแรกเละเทะเลยครับ ขุดขาดทุนค่าไฟ แต่ผมยอมจ่ายค่าไฟเพื่อขุด ต่อไปด้วยเงินจากงานประจำต่ออีก2ปี รวมค่าไฟจ่ายไป เกิน5แสน (เฉพาะค่าไฟนะครับ) ผมขุดเก็บไว้ใน hardware wallet อย่างเดียวรวมๆ มีeth ราว150เหรียญ ค่าไฟตกเดือน4หมื่นกว่าบาทพอต้นปีผ่าน เหรียญพุ่ง ผมขายได้เฉลี่ย 60,000 ต่อเหรียญ ต้นทุนขุดราว6-8000บาทต่อเหรียญ ก็ขายตูมเดียว 150เหรียญเลย ผมไม่เทรดเลย

คิดดูละกันครับ ถ้าเราไม่มีงานประจำ ค่อยสู้ ผมจำเป็นต้องขายการ์ดทิ้งในราคาขาดทุนกว่า80% ไปแล้วในตอนนั้น

อะไรก็ตามไม่ง่ายครับไม่ว่ายุคไหน อยู่ที่เราทำอะไรให้ถูกเวลา รึป่าว ผมไม่ได้อกว่าผมเก่งนะครับ อาจโชคดี ที่เชื่อเทคโนโลยี smart contact มันก็เป็นช่องทางหนึ่งในการหาเงินจริงๆ เราก็ต้องเรียนรู้กันไปครับ

ตอนนี้เหรียญethราคาแสนกว่าบาท การ์ดจอราคาพุ่งไปกว่า300% ของราคาพาร์ท ผมที่ออกมาจากตลาดแล้วก็ก็ได้แต่นั่งทับมือไว้

[paween_a]

อยู่ยากจริงครับ ตอนนี้มีลูกมีหลานก็อัดภาษาอังกฤษไว้เยอะ ๆ ให้พอให้เขาไปโตนอกประเทศได้ แบบนี้ผมว่าเป็นพื้นฐานแล้ว