สภาพภายนอกเทียบกับ พี่จีนดูอ่อนด๋อย ในขณะน้องนีดูดีกว่าเยอะมาก+ข้างๆ น้องนีคือจอยที่ต้องซื้อแยก
แกะมาเทียบกัน วัสดุพีจีนดูอ่อนกว่า (แหงหละ) ในขณะที่น้องนีดูดีกว่าระดับนึง
พี่จีนมีปุ่มมาให้เยอะกว่าเนื่องจากรองรับเกมหลาย platform มาก (มันคือ emu ฮ่า)
พี่จีนมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย อ้วนตัน
น้องนีจะเล็กกะทัดรัดกว่าหน่อย
ด้านข้าง พี่จีนมีปุ่มปรับเสียงส่วนของนีมีปุ่มเสียบจอยเพิ่ม
ด้านตูด พี่จีนมี
- USB x 2 สำหรับเสียบจอย (ซึ่งมีมาให้ด้วย)
- AV เหลืองขาวแดง
- MicroSD สำหรับเพิ่มเกมเอง
- MiniUSB สำหรับชาร์ตไฟ (มีแบตในตัวนะครัช)
- ปุ่ม เปิด-ปิด
- ปุ่ม เปิด-ปิด
- miniHDMI
- ช่องเสียง
- USB Type-C สำหรับเสียบไฟ (ไม่มีแบตนะครัช)
พี่จีนเป็นจอด้าน เขาเรียก IPS ป่าวหว่าไม่แน่ใจ
น้องนี เป็นจอมันวาว สดใส เวลาเล่นภาพคมกว่าหน่อย
ทางด้าน UI ของพี่จีน จะมี Default เกมมาให้ โดยที่สามารถไปเลือกเกมเพิ่มตาม Platform ได้จาก Icon รูปจอยเกมซ้ายล่าง มีทุกเครื่องครับครบๆ FC, SFC, MD, GameBoy
ผมลองเล่นเกมโปรดของผม Area88
ภาพจะเพี้ยนๆ นิด เนื่องจากจอถูกยืดเป็น 16:9 หรือจอ wide
ทางด้านน้องนี จอเป็น 4:3 ก็ตรงกับ ratio เดิมๆ ของเกมสมัยนั้น
โลโก้ที่คุ้นเคย
ภาพก็ดีงามตามท้องเรื่อง (จิงๆ ก้อ emu หละว้า)
สรุป
พี่จีน
- ราคาถูกกว่าครึ่งๆ
- มีจอยในตัว 2 อัน ไม่ต้องหาเพิ่ม
- มีแบตชาร์จในตัว
- เพิ่มเกมเองได้ผ่านช่อง microSD
- เล่นได้หลากหลายกว่า แทบจะทุก Platform ยุค Retro
- มีช่อง AV เหลืองขาวแดง ไม่รู้จะเรียกจุดเด่นหรือข้อด้อยดี เพราะผมมองว่ามันเอาไปเล่นกับทีวีจอแก้วได้อารมณ์คนแก่
น้องนี
- ราคาโหดสัสกว่ามาก เพราะต้องซื้อจอยแยก (ถ้าจะเล่น 2 คน)
- เพิ่มเกมไม่ได้ ตัวเครื่องมีมาให้แค่ 40 เกม (แต่เดาว่าคงมีคน Hack ได้แล้วมั้ง)
- ช่อง HDMI คือต่อกับทีวีสมัยใหม่ได้เลย (แต่ดันไม่มีหัวแปลง จาก mini ไปหัวใหญ่ T_T)
- จอสดกว่า ภาพดีกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับต่างมาก
จบแล้วครับ สุดท้ายไม่ว่าเครื่องไหน ก็โดนดองตามชั้นยาวๆ ไป อิอิ