5 replies to this topic

[Callihniel]

มีความคิดจะเคลือบแก้วรถใหม่ครับ ใจความสำคัญคือ

กันรอยขนแมว กับรักษาสีเดิมให้อยู่ทนนาน

จากที่ถามจากเพื่อนๆ รอบตัว (แค่คนเดียว 555) เค้าบอกว่าถ้าแค่อยากได้รถดูสวยใหม่ตลอด เอางบไปเข้าล้างขัดสีทุกอาทิตย์จะคุ้มกว่า

ผมอยากถามเพื่อนๆ ที่เคยเคลือบกันมาแล้วทั้งแก้วทั้งเซรามิก ช่วยแนะนำหน่อยครับ

และอีกคำถามนึงปิดท้าย ตัวรถผมสีขาว ถ้าผมจะติดสติ๊กเกอร์ลงไป พอนานๆ เข้าแดดจะเลียไม่เท่ากันแบบเห็นได้ชัดรึเปล่าครับ ?

อารมณ์ว่าแกะสติกเกอร์แล้วสีออกมาเป็นรอยสติ๊กเกอร์เพราะแดดเลียไม่เท่ากัน ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการเคลือบแก้วเคลือบเซรามิกได้รึเปล่าครับ

ขอบคุณทุกท่านที่มาตอบล่วงหน้าครับ

[keepwalking]

แนวคิดผมเมื่อปีที่แล้วคือ

เคลือบแก้วกับขัดเคลือบสีบ่อยๆ ใช้เงินพอๆกันครับ
เคลือบแก้วเลยดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปบ่อยๆทีละหลายชม. ทำมาแล้วแฮปปี้ครับ

[zxcv]

เคลือบแก้วเป็นคำตอบที่ดีที่สุดครับ แต่หาร้านที่ดีหน่อยไม่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงหรือราคาเวอร์วังและบริการหลังการขายที่ดี

การล้างเคลือบเป็นการดูแลรถที่ต้องทำอยู่แล้วไม่ว่าจะเคลือบแก้วหรือไม่ แต่การนำไปขัดสีเพื่อลบรอยถ้าทำบ่อยๆเข้าชั้นเคลือบสีจะบางรถก็จะเก่าหมองง่ายละครับ

[Tonkza]

คหสต ล้วน ๆ นะครับ

เคยคิดเรื่องเคลือบแก้ว ตอนที่ได้รถมาใหม่ ๆ ผลสรุปออกมาเป็นแบบนี้

ผมคิดว่า การเคลือบแก้ว เหมาะกับคนที่รักรถมาก ๆๆๆ และเงินเหลือ มาก ๆ เช่นกัน เพราะใช้เงิน มาก ๆๆๆ

เนื่องจาก เคลือบต้องเคลือบเป็นประจำ มีระยะเวลาสม่ำเสมอ แพ็คเกจที่ร้านเสนอราคาที่ดูล่อใจ จะถูกบวกด้วยเท่าตัว แล้วตามมาด้วย แพคนี้คุ้มกว่าน้ำยาดีสุด จำนวนครั้งเยอะกว่า รวมค่าล้างสำหรับรถเคลือบแก้วอีกกี่ครั้งก็ว่าไป

ซึ่งค่าล้างรถเคลือบแก้วก็จะแพงกว่ารถไม่เคลือบ

ซื้อแพ็คแล้วถึงจะใหญ่สุด ตอนเอารถเข้ามาเคลือบตามเวลา ก็จะมี คชจ อะไรบางอย่างงอกขึ้นมาอีก

และที่สำคัญ เราต้องมีพฤติกรรมในการรักษาความสะอาดรถ คือมีเวลามาล้างสม่ำเสมอ เนื่องจากรถเคลือบหรือไม่เคลือบเวลาไม่ล้างนาน ๆ สภาพไม่ต่างกัน เพราะสิ่งเคลือบจริง ๆ คือ ฝุ่นเหมือนกัน

สรุป ไม่เคลือบสีรถก็ไม่ได้พังง่ายอย่างที่เรากังวลหรอกครับ แต่ถ้ามีตังเคลือบก็เคลือบไป แต่ถ้าอยากเคลือบแล้วต้องมาเลือกแพคเกจสุดคุ้มนู้นนี่ อย่าเคลือบ เพราะนั่นคือประตูสู่ความเสียเงิน ที่คุณไม่พร้อมจะเสีย

สุดท้ายอยู่ที่ความสบายใจของเรา มันคือปัจเจก

[Callihniel]

Tonkza, on 22 April 2019 - 09:30 AM, said:

คหสต ล้วน ๆ นะครับ

เคยคิดเรื่องเคลือบแก้ว ตอนที่ได้รถมาใหม่ ๆ ผลสรุปออกมาเป็นแบบนี้

ผมคิดว่า การเคลือบแก้ว เหมาะกับคนที่รักรถมาก ๆๆๆ และเงินเหลือ มาก ๆ เช่นกัน เพราะใช้เงิน มาก ๆๆๆ

เนื่องจาก เคลือบต้องเคลือบเป็นประจำ มีระยะเวลาสม่ำเสมอ แพ็คเกจที่ร้านเสนอราคาที่ดูล่อใจ จะถูกบวกด้วยเท่าตัว แล้วตามมาด้วย แพคนี้คุ้มกว่าน้ำยาดีสุด จำนวนครั้งเยอะกว่า รวมค่าล้างสำหรับรถเคลือบแก้วอีกกี่ครั้งก็ว่าไป

ซึ่งค่าล้างรถเคลือบแก้วก็จะแพงกว่ารถไม่เคลือบ

ซื้อแพ็คแล้วถึงจะใหญ่สุด ตอนเอารถเข้ามาเคลือบตามเวลา ก็จะมี คชจ อะไรบางอย่างงอกขึ้นมาอีก

และที่สำคัญ เราต้องมีพฤติกรรมในการรักษาความสะอาดรถ คือมีเวลามาล้างสม่ำเสมอ เนื่องจากรถเคลือบหรือไม่เคลือบเวลาไม่ล้างนาน ๆ สภาพไม่ต่างกัน เพราะสิ่งเคลือบจริง ๆ คือ ฝุ่นเหมือนกัน

สรุป ไม่เคลือบสีรถก็ไม่ได้พังง่ายอย่างที่เรากังวลหรอกครับ แต่ถ้ามีตังเคลือบก็เคลือบไป แต่ถ้าอยากเคลือบแล้วต้องมาเลือกแพคเกจสุดคุ้มนู้นนี่ อย่าเคลือบ เพราะนั่นคือประตูสู่ความเสียเงิน ที่คุณไม่พร้อมจะเสีย

สุดท้ายอยู่ที่ความสบายใจของเรา มันคือปัจเจก

โอว ผมคิดว่าทีเดียวจบ เพราะเค้าเขียนว่าอยู่ได้ 7-10 ปี

กะว่าเคลือบทีเดียวจบ แล้วที่เหลือก็ล้างเคลือบสีธรรมดาไปเรื่อยๆ

ผมได้ราคามา 8,000 บาทโดยประมาณ ตีไปซะว่า 7 ปี ก็ตกเดือนละแค่ 95 บาท กับล้างเคลือบสีอีกสัก 250 บาทต่อเดือน เลยคิดว่า ก็น่าสนใจ

แต่ถ้ามี คชจ ยุบยิบงอกอีกต้องคิดใหม่ละ

[juja]

8000 บาทน่าจะไม่ใช่นะครับ ต้องลองศึกษาเกรดน้ำยาดูนะครับ มีทั้งญี่ปุ่น ทั้งจีน ที่ขายกันถูกๆ ก่อนเคลือบก็ต้องมีการเคลียร์ชั้นสี หรือรอยขนแมวเล็กๆน้อยๆก่อนรอบนึง แล้วค่อยเคลือบครับ การเข้าservice ทุก6 เดือน ถ้าเป็นร้านที่ค่อนข้างดีหน่อย ก็จะมีการขัดเคลียร์ แก้วเก่า แล้ว เคลียร์ชั้นสีอีกทีครับ บางที่อาจมีค่าบริการนิดๆหน่อยๆครับ แล้วการเคลือบแก้วแล้วไม่จำเป็นต้องล้างเคลือบสีครับ wax บางตัวของการเคลือบสี จะไปทำให้ความใสของชั้นแก้วลดลงครับ ล้างธรรมดาพอครับ

ปล. แก้วจะใสกว่า แต่เซรามิคจะแข็งและทนกว่า
ปล. 2 ไม่แนะนำให้ติดสติ๊กเกอร์หรือ wrap ใสนะครับ โดนแดดมากๆสติ๊กเกอร์จะหมองและดูเก่า