0
เมื่อวันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา การปิดสตูดิโอเกม Telltale Games แบบกระทันหันได้สร้างความช็อคต่อเกมเมอร์และวงการเกมเป็นอย่างมาก ซึ่งรวมไปถึงผู้เขียนเองก็เป็นแฟนเกมที่ติดตามซีรี่ส์ Telltale Games มาโดยตลอดเช่นกัน หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับ Telltale Games ที่ได้สร้างเกมคุณภาพดีมามากมายแต่ทำไมต้องยอมยกธงขาวยอมรับความพ่ายแพ้และอำลาต่ออุตสาหกรรมเกม? บทความนี้มีคำตอบ
นี่คือการ “ไขปริศนา เหตุใดที่ Telltale Games กัดฟันปลิดชีพบริษัทตนเอง” ที่จะเป็นการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่บริษัท Telltales Games จะต้องปิดตัวลงแบบสายไฟแลบ ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่ามีสาเหตุปัจจัยอะไรหลายทั้งในส่วนของทีมงานและผู้บริโภคเอง โดยผู้เขียนวิเคราะห์ได้ดังนี้
เกมเพลย์ล้าสมัย ไม่มีพัฒนาการทำให้ผู้เล่นเบื่อ
สิ่งที่เป็นจุดบอดของเกมซีรี่ส์ Telltale Games มาโดยตลอด ก็คือเรื่องของระบบเกมเพลย์ที่ไม่มีการพัฒนาการใด ๆ เลย นับตั้งแต่การเปิดตัวเกม The Walking Dead ภาคแรกในปี 2012
ถ้าหากเกมเมอร์ไม่ทราบ ระบบเกมเพลย์ของ Telltale Games เกือบทุกเกมจะเป็นรูปแบบ Adventure Interactive ที่ผู้เล่นจะได้รับสวมบทบาทเป็นตัวละครหนึ่งแล้วจะต้องเลือกคำตอบเพื่อดำเนินเนื้อเรื่องหรือแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ โดยทุกการตัดสินจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องในอนาคตข้างหน้า
เกมประเภท Interactive ไม่ใช่เกมที่สดใหม่ เกมเพลย์ลูกเล่นก็ไม่ค่อยเยอะ แต่สิ่งที่เกมนี้ได้เปล่งประกายขึ้นมาได้เพราะเนื้อเรื่องสุดตึงเครียดกับดราม่าระดับที่ทำให้เกมเมอร์ต้องน้ำตาตกได้ แล้ว Telltale ก็สามารถทำได้ดีและรักษาคุณภาพเนื้อเรื่องไว้ได้เกือบตลอดทุกเกม (ยกเว้น The Walking Dead Season 3 ที่คุณภาพเนื้อเรื่องดรอปลงเยอะ)
แต่ถ้านับตั้งแต่ปี 2012 มาถึงปี 2018 ปัจจุบัน ระบบเกมเพลย์กลับไม่มีพัฒนาการใด ๆ เลยทั้งสิ้น ทุกเกมยังมีการดำเนินเนื้อเรื่องวัฒนธรรมสไตล์ Telltale ดั้งเดิม คือ มีเพียงเลือกตอบ เก็บสิ่งของเพียงเท่านั้น แล้วการนำเสนอเองก็ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงยกเว้นแต่ภาพกราฟิกที่สวยขึ้น และที่สำคัญ การตัดสินใจของเกม Telltale “ตายตัว” หรือ “เพลย์เซฟ” มากเกินไปที่แม้จะเลือกทางไหนจุดจบก็เหมือนเดิม
เพราะอย่างไรก็ตาม “เกม” มันก็คือ “เกม” ยันวันค่ำ จุดประสงค์ของเกมมีไว้เพื่อเล่น ซึ่งเกมของ Telltale จะให้อารมณ์เหมือนกำลังดูภาพยนตร์ซะมากกว่า ในส่วนนี้จึงส่งผลทำให้เกมเมอร์ที่ได้ติดตามเกมของ Telltale Games จะรู้สึกเบื่อหน่ายกับสูญเสียแรงจูงใจเกมการเล่นประเภทนี้เป็นอย่างมาก
ขยันซื้อลิขสิทธิ์จากซีรี่ส์อื่น ทำให้ผู้เล่นทั่วไปเข้าถึงยากยิ่งกว่าเดิม
หลังจากเกม The Walking Dead ได้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทำให้ทีมงาม Telltale Games ได้เริ่มขยันซื้อลิขสิทธิ์เกมจากหนังสือการ์ตูนคอมมิค ภาพยนตร์ ทีวีซีรี่ส์ หรือวีดีโอเกมอื่น ๆ เพื่อพัฒนาเป็นเกมของตนเอง
ไม่ว่าจะเป็น The Wolf Among Us ที่ดัดแปลงมามากจากหนังสื่อการ์ตูน Fables, Game of Thrones จาก HBO, Batman หรือเกม Shooting RPG สุดเอกลักษณ์อย่าง Borderlands ซึ่งเกมทั้งหมดล้วนแต่เป็นเกมที่มีคุณภาพเนื้อเรื่องยอดเยี่ยมทั้งสิ้น แต่เพราะเป็นเกมที่เฉพาะเจาะกลุ่มตลาดที่แตกต่างกัน จึงเป็นสาเหตุทำให้เกมไม่แมสเท่ากับ The Walking Dead
ยกตัวอย่างเกมที่ผู้เขียนเล่นไม่จบอย่าง Game of Thones ซึ่งผู้เขียนไม่เคยดูทีวีซีรี่ส์นี้มาก่อน หลังจากที่เล่นเกมไปทั้งหมด 3 Episode สรุปได้คร่าว ๆ ว่า เนื้อเรื่องมันน่าติดตาม, นำเสนอยังคงครบรสดิบเถื่อนสไตล์ GoTแต่กลายว่าผู้เขียนไม่รู้สึกอินกับเนื้อเรื่องเท่าที่ควร เพราะผู้เขียนไม่รู้จักประวัติศาสตร์จักรวาลของ GoT แม้แต่นิดเดียว ซึ่งนั้นก็เหตุผลที่ผู้เขียนดรอปเกม GoT ไว้กลางทาง และผู้เขียนสัญญาว่าจะไม่ซื้อเกมหากไม่รู้จักต้นฉบับที่มีจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาล ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ส์ Batman, Borderlands ก็ตาม
ด้วยเหตุนี้เกมเมอร์หลายคนเลือกที่จะหลีกเลี่ยงเกมเหล่านี้ นอกจากซีรี่ส์ The Walking Dead เกมจะค่อนข้างเฉพาะเจาะจงกลุ่มผู้เล่นเกินไป จึงเป็นการไล่ฐานลูกค้าคนอื่น ๆ ไปโดยปริยาย และรวมไปถึงราคาลิขสิทธิ์ของต้นฉบับไม่ใช่สิ่งของราคาถูกเลย ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ได้กลับเข้ามาทำร้ายบริษัท เพราะคิดใหญ่เกินไปจนไม่สามารถคืนทุนได้เทียบเท่า
รุมล้อมไปด้วยปัญหาการเมืองภายในไม่รู้จบ
Telltale Games ช่วงหลัง ๆ โดนถล่มเต็มไปด้วยชื่อเสียกับปัญหาการเมืองภายใน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอดีต CEO ของ Telltale Games คุณ Kevin Bruner ได้ถูกไล่ออกจากทีมงานแล้วได้ฟ้องร้องกลับทีมงานเก่า หรือรวมไปถึงมีข่าวลือว่าสภาพแวดล้อมการทำงานของสตูดิโอ Telltale Games มีสภาพที่ย่ำแย่ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียด การด่าทอลูกทีม และใช้งานพนักงานหักโหมเกินไป
แต่สิ่งที่ Telltale Games ได้เริ่มแตกหักอย่างชัดเจน คือช่วงปลายปี 2017 ที่ผ่านมา ทีมงานได้สั่งปลดพนักงานทั้งหมด 90 คน ซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยเปรียบเสมือนเป็นเศษหนึ่งส่วนสี่ของทีมงานทั้งหมด โดยทีมงานได้อธิบายเหตุผลว่าต้องการให้องค์กรรองรับการแข่งขันของบริษัท แล้วได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการทำเกมใหม่ด้วยการลดปริมาณแต่เพิ่มคุณภาพมากขึ้น ซึ่งในตอนนั้นกระแสพูดคุยเกมประเภท Singleplayer กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในวงการเกมพอดี โดยเกมเมอร์ต่างได้คาดเดา ว่าเป็นลางไม่ดีของสตูดิโอ Telltale Games ที่มีโอกาสเสี่ยงที่จะปิดตัวนับตั้งแต่ช่วงเวลานั้นเป็นต้นมา
จนกระทั่งวันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2018 ฝันร้ายก็เป็นจริง สตูดิโอ Telltale Games ได้ประกาศปิดตัวอย่างเป็นทางการและปลดพนักงานทั้งหมดโดยทันทีโดยยังหลงเหลือพนักงานไว้เพียงแค่ 25 คนเท่านั้น โดยสาเหตุทางทีมงานยังไม่เปิดเผยอย่างชัดเจน แต่เกมเมอร์ต่างได้สันนิษฐานเหตุผลที่ Telltale Games ได้แตกหักนอกจากเรื่องการเมืองภายในแล้ว ก็คือ สตรีมเมอร์/เกมเมอร์สายดู
อิทธิพลเกมเมอร์สายดูกับสตรีมเมอร์
ผู้เล่นส่วนใหญ่ได้เริ่มวิเคราะห์สาเหตุว่าเกมเมอร์สายดูกับสตีมเมอร์เป็นสาเหตุทำให้สตูดิโอเกม Telltale Games ตัดสินใจปิดตัวลง สำหรับผู้เขียนมองว่าเป็นสาเหตุหลักหรือไม่? คำตอบคือ ใช่ แต่ไม่ทั้งหมด
เคสนี้เปรียบเสมือนอารมณ์แฟนซับอนิเมะกับมังงะสแกนที่ปล่อยให้ดาวน์โหลดกัน (เฉพาะเรื่องที่ไม่มีผู้ถือสิขสิทธิ์ในไทย) ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากแคสเตอร์/เกมเมอร์สายดู ข้อดีคือสามารถสร้างกระแสให้เกมเป็นที่รู้จักได้ไม่ยากเนื่องจากอิทธิพลของโลกโซเซียล แต่ข้อเสียที่ตามมาคือเป็นการทำลายผู้ผลิตทางอ้อม เพราะไม่มีผู้อุดหนุนผลิตภัณฑ์ คล้ายกับคุณนั่งชมหนังฟรีผ่านอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องจ่ายเงินจากการซื้อตั๋วที่ แต่ที่แตกต่างกันอย่างเดียวคือมันไม่ขัดต่อผิดกฎหมายใด ๆ ทั้งสิ้น
ซึ่งในส่วนนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ตัวบริษัท Telltale Games ต้องยอมรับว่าเกมเอื้อต่อการชมมากกว่าการเล่นจริง ๆ และเกมเมอร์สายดูสามารถซัพพอร์ทสร้างกระแสเกมให้โด่งดังได้เหมือนกับเกม The Walking Dead ในปี 2012 แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามันเป็นดาบสองคมที่มันทั้งสร้างและทำลายบริษัทในเวลาเดียวกัน แต่สำหรับเคสนี้ ดาบเล่ม “ทำลาย” มีความคมและมีประสิทธิภาพกว่า “สร้าง”
เกมเมอร์อาจจะเปรียบเทียบเคสนี้กับเกม Detroit Become Humen ซึ่งผมบอกว่ามันไม่แฟร์เลย เพราะว่า Telltale Games เป็นเพียงแค่บริษัทอิสระเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครหนุนหลังให้ ต่างจากบริษัท Quantic Dreams ที่มักจะเป็นเกมคุณภาพระดับ AAA โดยมีบริษัท Sony หนุนงบไว้เบื้องหลังและมีการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ฉะนั้นในด้านคุณภาพโดยรวมทั้งเกมมันเปรียบเทียบกันไม่ได้ครับ
แล้วเกมเมอร์สามารถทำอย่างไรได้บ้างเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้คล้ายกับ Telltale Games? ในส่วนนี้ก็ต้องขอความร่วมมือกับผู้เล่นเกม “ทุกคน” ให้ช่วยร่วมกันสนุบสนุนเกมแท้เพื่อเป็นงบให้แก่สตูดิโอกับเกมที่ตนเองหลงรักเป็นน้ำใจ การดูสตรีมเมอร์หรือเป็นเกมเมอร์สายดูไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะลึก ๆ แล้ว Telltale Games อยากจะขอบคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนเกมนี้มาโดยตลอดทั้งผู้ชมและผู้อุดหนุน แต่ทีมงานจะต้องมีกินมีใช้มีงบประมาณในการแลกเปลี่ยนกับการทำเกมคุณภาพเนื้อเรื่องเกมเช่นกัน
ให้คิดซะว่าการซื้อเกมหนึ่งเปรียบเสมือนเป็นส่งแรงกำลังใจให้แก่ทีมงานเพื่อให้สตูดิโอได้ขยันผลิตเกมออกมาเพื่อให้ผู้เล่นได้เล่นและผู้ชมได้ชมกันอย่างเต็มอิ่มครับ
