`

Jump to content





เมื่อผมback packตะลุยลมหนาวที่"ฮานอย"[รูปเยอะ]


9 replies to this topic

#1 manu16

    นักเล่นเกมชั้นครู

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2200 posts
  • Gender:Male

Posted 16 December 2013 - 09:57 AM

ทริปตะลุยลมหนาวHanoi
จองตั๋วโปรหางแดงได้ไปกลับ รวมทุกอย่างแล้วคนละ2650
บินวันที่10/12/56 บิน7.00เช้า กลับ12/12/56 บิน9.10
ทริปนี้เที่ยวแต่ในตัวเมืองไม่ได้ไปซาปา/ฮาลองเบย/ฮาลองบก
เพราะมีเวลาน้อยห่วงหมา ทิ้งหมา4ตัวอยู่บ้าน2วันเตรียมน้ำ/อาหารไว้ให้

และเนื่องจากบินต่างประเทศเลยต้องเผื่อเวลาสำหรับพิธีการเข้า/ออกเมืองด้วย
เลยต้องตื่นแต่ตี4.30 เพราะบ้านดันอยุ่ลาดกระบัง หางแดงมันย้ายไปบินที่ดอนเมือง หมดค่าแท็กซี่ไป220 กลับ260 เพราะใช้บริการเค้าทเตอร์สนามบิน
(ขี้เกียจไปโบกข้างนอก ส่วนมาไปไกลๆมันไม่ไปจะรอรับแต่ฝรั่ง) :hmm:

จองโรงแรม Royal Palace Hotel 2 ผ่านทาง Booking.comเอาไว้ ไม่ต้องจ่ายตังก่อน ค่าห้องคืนละ25$พัก2คืนก็=50$ แล้วก็ขอรถรับ/ส่งสนามบินด้วยอีกเที่ยวละ18$X2=36$
รวมเป็นจ่ายที่โรงแรมตอนเช็คเอ้าท์86$ ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มแล้ว
ตัวโรงแรมเป็นตึกแถวห้องเดียว แต่ตบแบบหรูหราอลังการมาก โรงแรมในย่านนี้ส่วนมากจะเป็นตึกแถวเกือบทั้งหมดแต่ตบแต่งแบบอลังการงานสร้างมากๆ มีLCD 32" ให้ดูด้วย ในราคาแค่700เนี่ยเมืองไทยมีแต่จอแก้ว เผลอๆห้องพัดลม+ไม่มีไวไฟ

Posted Image
Posted Image

ที่เลือกรถของโรงแรมเพื่อตัดปัญหาเรื่องแท็กซี่ขี้โกงอันเลื่องชื่อของที่ฮานอย จะหอบสัมภาระขึ้นรถเมลก็คงไม่สะดวกนัก
เพราะสนามบินนอยไบ อยู่ห่างจากตัวเมืองราว30กิโล
และรถที่นี่พวงมาลัยซ้าย รถวิ่งเลนท์ขวา ซึ่งตรงข้ามกับบ้านเรา แถมจำกัดความเร็วไม่เกิน60km/h ซะด้วย

wifiที่นี่เยอะมากๆ เลยตัดปัญหาเรื่องซื้อsimที่นี่ใช้งานได้เลย ถ้าพักอยู่ในย่านเมืองเก่า(Old Quarter) บรรยากาศจะประมาณย่านข้าวสาร เยาวราช โบ้เบ้ สะพานขาวประมาณนี้

ใช้เวลานั่งรถจากสนามบินออกมาถึงตัวเมืองเกือบๆชั่วโมง พอข้ามสะพานแม่น้ำแดงเริ่มเข้าสู่ตัวเมือง ก็จะได้รับการต้อนรับด้วยปริมาณกองทัพรถมอเตอร์ไซค์ และเสียงบีบแตรปิ้นๆๆๆ ดังแทบจะตลอดเวลา
Posted Image

ไฟแดงมีก็แทบจะเหมือนไม่มี วิ่งขวั่กไขว่ปาดหน้าปาดหลังคนข้ามถนนตลอด คนขวัญอ่อนจะข้ามถนนลำบากล่ะ ถ้ารอให้รถว่างนี่ไม่ได้ข้ามแน่ๆ ทริกคือให้เดินไปเรื่อยๆแล้วมองคนขับรถไปด้วย รถจะเบี่ยงหลบเราเอง
*การข้ามถนนที่นี่น่าจะเป็นอีก1ไฮไลท์ที่ใครมาแล้วจะต้องลองฮะ

ฟุตบาทที่นี่จะเตี้ยมาก แถมขอบจะเทเอียงๆให้รถสามารถขี่ขึ้นไปจอดได้ด้วย รถที่นี่จะไม่จอดริมถนนแต่จะขับขึ้นจอดบนฟุตบาทเลย ฟุตบาทไหนกว้างก็มีรถยนต์จอด ตรงไหนแคบจะเป็นที่จอดมอไซค์

90%ของมอไซค์ที่นี่จะเป็นHonda มีตั้งแต่เก่าอย่างดรีมคุรุสภา,C70ก็มีเยอะ ไปยันรุ่นหัวฉีดออโต้CBR150i หน้าตาคล้ายบ้านเราเปลี่ยนนู่นนิดนั่นหน่อยแค่นั้น Yamaha,suzuki เห็นมีศูนย์บริการอยู่แต่Kawaไม่เห็นเลย

รถที่นี่ขี่กันแบบเดิมๆไม่มีการแต่งใดๆเลย ร้านอะไหล่แต่งไม่เจอ มีแต่ร้านซ่อมมอไซค์แบบเก่าๆอยู่ทั่วทุกถนน

สิ่งที่ไม่เจอตลอดทริปที่นี่เลยคือ หมาข้างถนน/แมว/สาวอ้วน รถชนก็นานๆทีเพราะขับกันช้ามากเลยเบรคกันทัน

ถ้าแว้นท์ไทยมาขับบนถนนที่นี่คงจะเครียดแถมด่ากระจาย แต่ที่นี่แค่บีบแตรแล้วก็ขับไปต่อ

ใครมาเที่ยวเป็นหมู่ประมาณชายล้วนๆ ผมแนะนำให้ไปเดินเที่ยวในตลาดดงซวนฮะ
Posted Image
ตลาดไม่ใหญ่มากแต่อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ทำไมน่ะรึ? ก็เพราะแม่ค้าที่นี่99%เป็นสาวๆ

และเนื่องจากไม่มีคนอ้วนเลย ซึ่งน่าจะมาจากวัฒนธรรมการกินผัก ทำให้หุ่นดี ผิวขาว ชอบใส่เสื้อ/กางเกงรัดๆ เวลาหันหลัง/นั่งหยิบของ ร่องตูดขาวๆ ขอบกางเกงในสารพัดสี จะโผล่ออกมาทักทายชาวโลก :a1:

หรือถ้าหันหน้ามาแต่นั่งยองๆ(ที่นี่เก้าอี้จะตัวเตี้ยๆ)ร่องอกขาวๆอวบๆจะออกมาทักทายแทน และรู้สึกว่าจะเป็นเรื่องปรกติธรรมดาของที่นี่ซะด้วย ไม่มีใครใส่ใจจะปิดบังอะไรเลย

และขอบอกว่าทางเดินแคบมากๆ เพราะเต็มไปด้วยกองเสื้อผ้าของแต่ละร้าน บางคนก็นอนหลับในกองผ้านั่นแหละ เปิดโอกาสให้เราใช้สายตามองรูปร่าง แทนที่จะมองสินค้าได้สะดวก ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องปรกติอีกนั่นแหละ :a2:

*เป็นอีก1ไฮไลท์ที่อยากให้หนุ่มๆได้มาเดินฮะ

ร้านค้าขายในย่านเมืองเก่า ทิศเหนือทะเลสาปคืนดาบ(ฮวานเกี๋ยม)ส่วนใหญ่เข้าใจภาษาอังกฤษได้ดี บางร้านก็พูดไทยได้ด้วย แต่ถ้าเป็นร้านอาหารพื้นเมืองข้างทาง ต้องภาษาเวียดนามแล้วภาษามือ+เครื่องคิดเลขเท่านั้น

Posted Image
เดินผ่านร้านนี้แว้ปแรกแรกตกใจเลยนึกว่าสาวน้อยคนนั้นไม่ใส่กางเกง จนต้องเพ่งมองถึงบางอ้อว่าใส่กางเกงแนบเนื้อสีน้ำตาล :a1:

เดินรอบริมทะเลสาปทางเหนือเพื่อข้ามสะพานแสงอาทิตย์(กิ่วเทฮุก) ไปที่วัดหง็อกเซินที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาป
เจอสมุดเล่มใหญ่เลยถ่ายรูปซะเหมือนเป้นแลนด์มาร์คที่นี่ใครมาก็ต้องมาถ่าย
Posted Image

ร้านขายของที่ระลึกริมทะเลสาปก่อนข้ามสะพานเทฮุก
Posted Image

เดินข้ามสะพานไปวัดขนาดตอนเที่ยงหมอกยังลงหนักไม่เห็นแสงอาทิตย์เลย เห็นแต่ดวงอาทิตย์อ่อนๆ ลมโชยเอื่อยๆ
Posted Image
Posted Image

มื้อแรกในฮานอยเป็นเฝอกา(ไก่)กับ บุ๋นจ่า(ขนมจีนหมูปิ้ง) สนนราคารวมแล้ว แสนสามเอ้งงงงง~!!...
บุ๋น(เส้นขนมจีน)กินกับหมูย่าง(จ่า)หมูจะคลุกซีอิ้วย่างแค่นั้น รสชาติอย่าให้บอกเลย เทียบกะบ้านเราไม่ติด
Posted Image
Posted Image

ถนนย่านนี้เล็กตัดกันคล้ายตาข่าย เส้นนึงก็จะขายประเภทนึง เช่นรองเท้าก็ยาวไปเลย กระเป๋าก็กระเป๋ากันยาวเลย มี36สายหมายถึง36อาชีพ
ของฝากที่นี่น่าจะเป็นพวกตุ๊กตาไม้ใส่งอบเวียดนาม,งานไม้ฝังมุก,กาแฟ กาแฟที่นี่เด็ดมากคือกาแฟขี้ชะมดอันแสนแพงที่บ้านเรา ซึ่งเป็นพันธุ์โรบัสต้าจุดเด่นคือรสเข้มหนักแต่ไม่หอมมากและที่นี่กินกาแฟดำ+น้ำตาล ถ้าต้องการใส่นมเค้าจะให้มาเป็นนมข้นหวานแทน

Posted Image
Posted Image


ต่างกับบ้านเราที่เป็นกาแฟพันธุ์อะราบิก้า ไม่เข้มแต่กลิ่นหอมซึ่งเอามาทำเป็นคาร์ปูชิโน่/เอสเพรสโซ่ ใส่นมสดหรือครีมเทียม กาแฟญี่ห้อขึ้นชื่อที่สุดคือ Trung Nguyen(ตรุงเหงียน)เปรียบกับบ้านเราก็ เนสกาแฟ
**เรื่องกาแฟเป็นความคิดเห็นส่วนตัวผิดพลาดต้องขออภัย

มาว่ากันที่กาแฟขี้ชะมดต่อ ที่มันแพงก้เพราะขั้นตอนการผลิตมันยุ่งยากซับซ้อน เอากาแฟให้ชะมดกิน(ที่นี่เรียกชะมดว่าเพียงพอน ถ้าอินโดจะเรียกLawak)
ซึ่งชะมดจะเลือกกินเฉพาะเมล็ดกาแฟที่สุกแล้วเท่านั้น พอกินเข้าไปเอ็มไซน์ในกระเพาะมันจะย่อยแต่เปลือกของเมล็ดกาแฟออกไป
เหลือแค่ตัวเมล็ดล้วนๆ แล้วอึออกมาเป็นแท่งยาวๆ เค้าจะเอาไปล้างน้ำทำความสะอาด ตากแห้ง คั่ว แล้วส่งตามร้านขายเป็นเมล็ดนี่แหละ ทางร้านจะมีเครื่องบดเมล็ดกาแฟและเครื่องซีลถุงกันทุกร้านเลย

แม่มบดได้ไวมาก ตอนผมตกลงใจซื้อ นึกว่าจะเอาที่แพ็คแล้วให้ เค้าบอก เดี๋ยวบดให้สดๆ แล้วเดินไปตักเมล็ดกาแฟใส่เครื่อง เปิดสวิทย์ปรื้ดเดียวออกมาเป็นผงเรียบร้อบร้อย ไม่ถึง1วินาที ป๊าดดดด...
Posted Image

ตักผงที่บดแล้วใส่ถุงซีลเรียบร้อย กลิ่นกาแฟตอนลงเครื่องบดนี่หอมฟุ้งเลย แต่หอมคนละแบบกับอะราบิก้าบ้านเรานะ อันนี้หอมหนักๆเข้มๆ
ถ้านั่งกินกาแฟขี้ชะมดที่ร้านนี่เลยก็มีบริการ แก้วละ4หมื่น5ถึง5หมื่นเป็นเงินไทยก็ตก 75฿
ที่เมืองไทยเห็นมีคนเอาชะมดมาเลี้ยงทำกาแฟแล้วเหมือนกันที่กาญ แต่ขายแก้วละ500 :hmm:

อ้อตอนขากลับตรงเกทขาออกจากฮานอย มีพวกร้านดิวตี้ฟรี เห็นมันมีขาย "กาแฟขี้กระรอก" ด้วยนะฮะ อีกหน่อยคงจะมีอีกหลายขี้กันหล่ะ รอซื้อกาแฟ"ขี้นางงาม" เอาละกัน :hmm:
Posted Image
Posted Image

ใช้เงินด่องคุ้มที่สุด ลองมาก็เงินบาท แต่มีรับเฉพาะในสถานที่เที่ยวสำคัญๆอย่างสุสานลุงโฮ
สว่น $จ่ายได้เกือบทั่วไป ร้านมินิมาร์ทก็รับ แต่เสียเปรียบสุดๆเพราะจะโดนปัดเศษออก

แลกเงินด่องตามแบ้งค์ในเมืองได้ทั่วไป และก่อนกลับให้แลกกลับหรือใช้ให้เกือบหมดไปเลย เพราะกลับไทยแล้วหาที่แลกเงินด่องแทบไม่มีใครรับ ไม่เหมือนเงิน$

ร้านอาหารข้างทางทั่วไปจะรับแต่เงินด่อง ร้านดูไม่ค่อยสะอาดนัก และมีกลิ่นคาวมาก ที่นี่จะไม่ใส่ผงชูรส หรือเครื่องเทศอย่างบ้านเรา
รสชาติอาหารจะมีแต่จืดนำมาเลย ส่วนใหญจะเป็นเฝอ เทียบกะเมืองไทยก็ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ข้าวราดแกงก็มีแต่จะจืด และประกอบไปด้วยผักๆๆ เต้าหู้ๆๆ

มากับแฟนผมไม่ได้นั่งร้านห้องแถวพวกนี้เลย เข้าไปยืนๆแล้วแฟนสะกิดออก บอกไม่ไหวกลิ่นเหม็นคาวมากๆ เป็นทุกร้าน สุดท้าย ซื้อมาม่าเวียดนามในมินิมาร์ท ไปชงกินที่ห้อง :hmm:

เนื้อวัว(โบ) เนื้อไก่(กา) หมูกะทะแบบบ้านเราก็พอมีนั่งเก้าอี้เตี้ยๆ ล้อมวงกันริมฟุตบาทนั่นแหละ อากาศในหน้าหนาวที่ฮานอยหนาวกะลังดีมากกว่าเชียงไหม่นิดหน่อย (แต่หลังกลับมาได้อาทิตย์นึงอากาศที่โน่นลดลงเห็น7-8องศาเอง) :hmm:
Posted Image
ร้านนี้คนโคตรเยอะเลยทั้งคนเวียดนามทั้งฝรั่ง
Posted Image

เหมาะแก่การล้อมวงกินมาก จะเห็นร้านน้ำชา-ปาท่องโก๋อยู่ทั่วไป แต่ที่เยอะยิ่งกว่าคือ ร้านขายเมล็ดทานตะวัน ไอ้ที่บ้านเราเอาไว้ให้นกแก้วกินนั่นแหละ ที่นี่มีเยอะมาก

ยิ่งละแวกรอบๆทะเลสาปคืนดาบ นั่งแทะกันแทบจะทุกแยกทุกซอย เปลือกงี้เกลื่อนเลย :hmm:

ใครมาฮานอยไม่ไปเคารพศพลุงโฮเรียกว่ามาไม่ถึงเวียดนาม ลังบ๊าก(สุสานลุงโฮ) จะอยู่ห่างจากย่านเมืองเก่าราวๆ2กิโล

แค่นี้เดินไปได้สบายๆกับอากาศเย็นๆระหว่าง17-22องศา เดินไปทางถนนเดียนเบียนฟูใช้เวลา30-40นาทีก็ถึง แต่จะเป็นด้านหลังซึ่งเป็นสนามหญ้ามีทหารเฝ้าไม่พูดไม่จา กวักมือไล่อย่างเดียว

Posted Image

เลย ต้องเดินอ้อมเลาะไปเรื่อยๆกว่าจะไปถึงทางเข้าด้านหน้าประมาณกิโลนึง :hmm:

ต้องเดินตามทางบังคับแล้วมีทหารคอยโบกไม้โบกมือชี้ให้เดิน ไม่มีป้ายชี้บอกเลย

เค้าห้ามเอากล้องเข้าไปให้ฝากไว้ที่ด้านหน้า พอเดินเข้าไปเคารพศพลุงโฮเสร็จ เดินออกมา กล้องมารออยู่ที่ทางออกแล้ว มาเร็วมากอ่ะ

Posted Image
Posted Image
Posted Image

เดินมาอีกนิดจะเจอบ้านพักที่ลุงโฮเคยอยู่อันนี้ต้องซื้อบัตรเข้าด้วย 2หมื่นด่องก็ตก30฿ไม่แพง ก็เลยเข้าไปดูซะหน่อย ร้านค้าที่นี่พูดไทยได้นิดหน่อยจ่ายด้วยเงินไทยก็ได้ เจอพระไทยมาธุดงด้วย

Posted Image
Posted Image
Posted Image

คนไทยมากับทัวร์เยอะเหมือนกันนะ เสียงเจื้อยแจ้วกันเลยทีเดียว แต่เรามาแบบแบ็คแพ็คเอง ซึ่งก็มีทั้งข้อได้เปรียบและเสียเปรียบ เดินดูจนพอใจแล้วก็เดินกลับ

ขากลับแวะนั่งกินกาแฟร้านกาแฟชื่อดังของที่นี่ Trung Nguyen กาแฟที่นี่เป็นพันธุ์โรบัสต้า และที่นี่กินกาแฟดำขมsusๆ

Posted Image
Posted Image

ชงแบบกาแฟน้ำหยด ถ้าอยากใส่นมเค้าจะเอานมข้นหวานมาให้ผสม รสชาติกาแฟมันจะเข้มกว่าอะราบิก้าบ้านเรามาก แต่กลิ่นจะไม่หอมเท่าและมีคาเฟอีนมากกว่าด้วย ไวไฟที่นี่หาง่ายนั่งกินร้านไหนขอpassเค้าได้เลย

พอเดินกลับถึงโรงแรม พักขาซะหน่อยแฟนก็พาออกเดินช๊อปอีกแล้ว :hmm:

ร้านขายหมวก/หมวกกันน๊อคที่นี่จัดร้านได้หรูมาก หมวกสารพัดแบบ
ที่นี่นิยมใส่หมวกกันน๊อคแบบครึ่งใบ รูปทรงสวยจริงๆบ้านเราไม่มีแบบนี้เลย อยากได้แต่จนปัญญาจะหิ้วกลับ
ร้านนี้อยู่ตรงข้ามโรงแรมเป้ะเลย
Posted Image
Posted Image

ราคาตก2แสน5หมื่นด่องก็ตกเกือบๆ4ร้อย ใครเอากลับได้ก็ใส่เท่ห์เลยไม่เหมือนใคร
ข้างๆร้านหมวกมีร้านรองเท้าผ้าใบอยู่1ห้องแถวเล็กๆ แต่คนซื้อเยอะมากกกก..
เปิด4โมงเย็นถึง4ทุ่ม ดูป้ายราคาแล้วไม่น่าแปลกใจ เพราะถูกมาก 5หมื่น 7หมื่น แพงสุดแสนหนึ่งหมื่น
อยากจะเดินเข้าไปเหมือนกันแต่สู้จำนวนคนไม่ไหว ประกอปกับขี้เกียจหิ้วของหนักกลับเพราะขี้เกียจรอโหลดใต้เครื่อง
Posted Image
Posted Image

แฟชั่นหน้าหนาวที่นี่เสื้อกันหนาวเยอะมากๆ สารพัดรูปทรง ตัวสั้น,ตัวยาว,ตัวใหญ่,ตัวรัดเข้ารูป

ถูกใจสาวขาช๊อปนักล่ะ แฟนซื้อทรงมิชลินไปตัวนึกตก4แสนห้าหมื่นด่องก็6ร้อยกว่าบาท เมืองไทยคงขายพันกว่าๆ อุ่นมากกก..

รอบๆทะเลสาปตอนกลางวันกับตอนกลางคืนความสวยคนละแบบเลย *รูปนี้ไปจิ้กเค้ามาเห็นว่าถ่ายสวยดี
http://upload.wikime...ht_panorama.jpg

กลางคืนรถน้อยลงเสียงแตรก็ลดลงไปด้วย แต่คนออกมาเดิน นั่งกินอาหารตามร้าน กินน้ำชาแทะเมล็ดทานตะวัน เยอะขึ้น

ผมเดินวนรอบทะเลสาบไปถ่ายรูปกับอณุเสาวรียพระเจ้า Ly Thai To ผู้นำดาบวิเศษปราบพวกหมิง(จีน)ปลดปล่อยเวียดนามเป็นอิสระ เรื่องเมื่อหลายร้อยปีก่อน
Posted Image

เดินต่อมาทางด้านใต้อีกนิดเจ้าห้างอะไรไม่รู้ หรูประมาณพาราก้อน เห็นมีคู่บ่าวสาวมายืนถ่ายภาพอยู่หลายคู่มากๆ เข้าไปเดินในห้างดูไม่ใหญ่ออกจะเล็กด้วยซ้ำ แต่จัดได้หรูทีเดียว
Posted Image

เริ่มหิวเลยเดินออกมา ข้ามถนนไปเจอคนขายขนมปังบาร์เก็ตน่ากินดีเลยสั่งชี้โบ้ชี้เบ๊ไปที่ไข่ไก่
ได้ผลเค้าหยิบไข่ออกมา2ฟองมาตีไข่เหยาะพริกไทย แล้วเทใส่กระทะไฟอ่อนๆเหมือนทำออมเล็ตแล้วผ่ายัดในขนมปังให้กิน
ขนมปังอร่อยดี กรอบนอกนุ่มในแต่ไข่ออมเล็ตไม่มีรสชาตอะไรเลย จ่ายไป2หมื่นด่อง
Posted Image
Posted Image

เดินต่อผ่านหน้าตึกไปรษณีย์ กางแผนที่เดินไปทางโรงแรมแวะผ่านโบสท์เซนต์โยเซฟ ก่อนเข้าโรงแรมไม่ลืมแวะมินิมาร์ทไกล้ๆเพราะแฟนไม่ยอมนั่งกินตามร้านเลย

บอกว่ามันเหม็นคาวและดูไม่สะอาด ไม่น่ากิน เลยต้องพึ่งมาม่าเวียดนาม :hmm:

อ้อ โรงแรมที่พักพนักงานเฟรนด์ลี่ย์มากๆ พยายามชวนพูดคุยตลอด แอร์ในห้องไม่เคยได้เปิดเลย

มาหน้าหนาวอุณหภูมิระหว่าง16-24 ถ้ามาครั้งหน้าหาห้องพัดลมยังได้เลย นอนห่มผ้าทั้งคืน

ห้องน้ำมีน้ำอุ่นให้อาบร้อนดีมาก ห้องก็สะอาดสะอาด น้ำ/ขนม ที่มีบริการก้ราคาไม่แพง แค่1$ ครึ่ง$

แถมตอนเช็คเอ้าท์เวลา6.00น ทางโรงแรมยังมีของขวัญเล็กๆเป็นกาแฟ3in1 G7 ให้มาอีกกล่องนึงด้วย ประทับใจมาก
Posted Image

ห้องพักคืนละแค่700กว่าเองนะนี่ ขากลับนี่เค้าเรียกแท็กซี่ไปส่งให้แทน แอบเห็นเค้าจ่ายตังค์แท็กซี่ให้ด้วย ต่างจากขามา ที่ส่งรถโรงแรม(vios)ไปรับ

เห็นเค้าก็กดมิเตอร์นะถึงจะไม่เก็บเงินเราก็เถอะ ดูจากมิเตอร์คำนวนแล้วน่าจะราวๆเกือบ400บาท เราจ่ายโรงแรมไป18$ ก็โอเค

แฟนใส่เสื้อหนาวมิชลินที่ซื้อไหม่กลับ พอถึงดอนเมืองรีบถอดเลยบอกร้อน :lol2:


อันนี้ของฝากเพื่อนไลน์มาบอกว่าอยากได้กาแฟขี้ชะมดเลยซื้อมาเผื่อ ที่ชงกาแฟน้ำหยดกับที่อุ่นกาแฟด้วย
Posted Image




ไว้นึกอะไรได้จะมาเพิ่ม :lol:

Edited by manu16, 27 December 2013 - 10:09 PM.


#2 rufast

    งืมๆแงมๆ

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 7501 posts

Posted 16 December 2013 - 11:14 AM

ผมก็ไปฮานอยมาช่วงกลางๆปีเหมือนกันครับ
แต่ความรู้สึกคือไม่ชอบ คนที่นั่นเค้าทำให้เราดูเป็น tourist แบบเต็มรูปแบบ
คือเดินไปไหนมีแต่คนมอง มีแต่คนเรียก ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เท่าไหร่
ตอนผมไปก็ไป Day Trip ฮาลองเบมา (เฉยๆมาก )กับ อีกที่นึงจำชื่อไม่ได้ แต่ชอบมาก เป็นพายเรือดูธรรมชาติ แล้วก็ลอดถ้ำไปเรื่อยไปเฉื่อย
แต่โดยรวมๆแล้วก็ำไม่ชอบเวียดนามเท่าไหร่
ถ้าจะให้ไปอีก คงไม่ไป หาที่อื่นไปดีกว่า

มีสองเรื่องที่ชอบในเวียดนาม คือกาแฟ และ สาวขาวๆ หุ่นดี

#3 manu16

    นักเล่นเกมชั้นครู

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2200 posts
  • Gender:Male

Posted 16 December 2013 - 12:29 PM

อันหลังที่ว่าคนไทยเรียกฮาลองบกครับ ชื่อจริงมัน Ninh Binh

คนที่เรียกท่านก็จะมี Cyclo (สามล้อถีบชมเมือง) กับ มอไซค์รับจ้าง เท่านั้นแหละฮะ กวักมือเรียกฮาโล่ๆตลอดอ่ะให้เราใช้บริการ

ผมNOอย่างเดียว ขอเดินชมเมืองดีกว่า

อีกอย่างที่เค้าจะมองท่านแปลกๆก้คือคนอ้วน ที่นี่คนอ้วนกลายเป็นของแปลก เพราะหาคนที่นี่อ้วนไม่เจอเลยจริงๆ

ซึ่งก้น่าจะเป็นงั้น กินเท่าไหร่ เข้ออกมาหมดเลย ไป2วัน เข้รไปเป็นสิบ แฟนผมถึงบ้านชั่งน้ำหนักลดไป2กิโลตกวันละโล 55555

กลางปีมันหน้าร้อนเข้าฝน อากาศต่างจากหน้าหนาวมากฮะ หนาวนี่เย็นกว่าที่เชียงไหม่

หมอกลงจัดจนมองพระอาทิตย์ไม่เห็น และบางทีหนักจนกลายเป็นฝนปรอยๆเลย

ไม่แปลกที่จะรู้สึกเฉยๆเพราะอากาศจะไกล้เคียงบ้านเราคือร้อนชื้น

Edited by manu16, 16 December 2013 - 12:32 PM.


#4 rufast

    งืมๆแงมๆ

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 7501 posts

Posted 16 December 2013 - 01:15 PM

View Postmanu16, on 16 December 2013 - 12:29 PM, said:

อันหลังที่ว่าคนไทยเรียกฮาลองบกครับ ชื่อจริงมัน Ninh Binh

คนที่เรียกท่านก็จะมี Cyclo (สามล้อถีบชมเมือง) กับ มอไซค์รับจ้าง เท่านั้นแหละฮะ กวักมือเรียกฮาโล่ๆตลอดอ่ะให้เราใช้บริการ

ผมNOอย่างเดียว ขอเดินชมเมืองดีกว่า

อีกอย่างที่เค้าจะมองท่านแปลกๆก้คือคนอ้วน ที่นี่คนอ้วนกลายเป็นของแปลก เพราะหาคนที่นี่อ้วนไม่เจอเลยจริงๆ

ซึ่งก้น่าจะเป็นงั้น กินเท่าไหร่ เข้ออกมาหมดเลย ไป2วัน เข้รไปเป็นสิบ แฟนผมถึงบ้านชั่งน้ำหนักลดไป2กิโลตกวันละโล 55555

กลางปีมันหน้าร้อนเข้าฝน อากาศต่างจากหน้าหนาวมากฮะ หนาวนี่เย็นกว่าที่เชียงไหม่

หมอกลงจัดจนมองพระอาทิตย์ไม่เห็น และบางทีหนักจนกลายเป็นฝนปรอยๆเลย

ไม่แปลกที่จะรู้สึกเฉยๆเพราะอากาศจะไกล้เคียงบ้านเราคือร้อนชื้น

ผมไม่อ้วนน่ะ แต่คงแต่งตัวเหมือนนักท่องเี่ที่ยวแหล่ะ
แล้วก็อาหารที่เวียดนามนี่ไม่ค่อยถูกปากผมแฮะ
ผมกลัวท้องเสียด้วยมั้งเลยไม่ค่อยได้กินอะไร
รู้แต่เบียร์ไฮเนเก้นกะไทเกอร์ที่นี่ราคาถูกอ่ะ

ตอนไปบ้านลุงโฮ ผมซื้อตั๋วแล้วเดินเข้าไป ปรากฏว่าเค้าไม่ได้เก้บบัตรหรือฉีกบัตร
พอตอนออกมามีคนตามผมเลย ผมก็ตกใจว่าตามมาทำไม
สรุปเค้าจ้องผมไว้แล้วว่าบัตรมันไม่ได้ถูกฉีกไป เลยตามมาขอ สงสัยจะเอาไปขายต่อ
ผมก็เลยรู้สึกว่าอยู่ที่นี่ การเป็นนักท่องเที่ยวมันโดนจับตามองมากกว่าที่คิด

ที่ผมไปคือ Trang An Grottoes - Hoa Lu - Ninh Binh ครับ
ตอนแรกว่าจะไป Tam Coc แต่อ่าน review ใน tripadvisor แล้ว เหมือนจะไม่เวิร์คเลยไม่ไป

#5 manu16

    นักเล่นเกมชั้นครู

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2200 posts
  • Gender:Male

Posted 17 December 2013 - 12:16 PM

กลับจากฮานอยได้5วัน ที่ซาปาดั้นนมีหิมะตก!!!!! Sassssssssss....



แม่ม..ไม่ตกให้เร็วกว่านี้ซักอาทิตย์นึง จะได้ซื้อทัวร์ไปเล่นหิมะที่โน่น!! :r52: :r27: :punch:

http://www.manager.c...D=9560000154259
Posted Image
Posted Image
Posted Image
Posted Image
Posted Image
Posted Image
Posted Image
Posted Image
Posted Image
Posted Image
Posted Image
Posted Image

#6 one

    เซียนเกม

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4399 posts
  • Gender:Male
  • Location:Bkk

Posted 21 December 2013 - 05:06 PM

สาวที่นั้นสวยไหม

เวียดนามมีหิมะ ต่อไปก็เป็นไทย

#7 manu16

    นักเล่นเกมชั้นครู

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2200 posts
  • Gender:Male

Posted 22 December 2013 - 11:15 AM

สาวที่นั่นหน้าตากลางๆครับ ไม่ปรุงแต่งศัลยกรรมเหมือนบ้านเรา

แต่ผิวขาวจั๊วะทุกคน ไม่มีคนอ้วนเลย ชอบใส่เสื้อผ้ารัดๆ นั่งล้อมกินข้าว/น้ำ/ขนม/กันข้างทาง บนเก้าอี้เตี้ยๆ โชว์ร่องก้นขาวๆกันเป็นปรกติ :r17:

#8 goong

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 2

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1033 posts
  • Gender:Male

Posted 30 December 2013 - 06:11 AM

ยืนยันสาวเวียดนามขาว หุ่นดี น่ารักลูกค้าที่ร้านผมนึกว่า16-18 ถามอายุ22แล้วซะงั้น

#9 Friendly

    นักเล่นเกมฝึกหัดระดับ 3

  • High Members
  • PipPipPipPip
  • 191 posts

Posted 12 February 2014 - 06:54 PM

พ่อค้าแม่ค้าพูดอังกฤษได้มั้ยครับ

กลัวว่าไปแล้วจะสั่งข้าวมากินไม่เป็น

#10 manu16

    นักเล่นเกมชั้นครู

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2200 posts
  • Gender:Male

Posted 16 February 2014 - 02:57 PM

ที่เป็นร้านอาหารหรือภัตตาคาร และร้านขายของในสถานที่เที่ยวสำคัญๆอย่างสุสานลุงโฮ ใช้อังกฤษได้สบายครับ บางร้านพูดไทยรับเงินบาทไทยด้วย

ร้านขายของละแวก ทะเลสาปฮวานเกี๋ยม พูดEngได้ดี บางร้านพูดขายของภาษาไทยได้ด้วย

เฉพาะร้านอาหารข้างทางเท่านั้นที่พูดEng ไม่ได้ แต่ย.ห.ครับ ภาษามือชี้โบ้ชี้เบ๊ สั่งได้แน่นอน ไม่ได้ยากเย็นอย่างที่คิดสนุกซะด้วยซ้ำ

ผมไปกะแฟนร้านข้างทางแฟนไม่ยอมนั่งกิน บอกแลดูสกปรก คับแคบ อึดอัด และมีกลิ่นคาวมากๆ(ส่วนมากเป็นตึกแถวห้องเล็กๆ)

คงประมาณไม่ได้ใช้พวก เครื่องเทศอย่างบ้านเราอะ เลยต้องเดินเข้ามินิมาร์ท ซื้อมาม่าเวียดนามไปชงกินในห้องพัก

อยู่2วัน2คืน ลองมาเกือบทุกรสในมินิมาร์ทแล้วล่ะ ... :r27:

Edited by manu16, 16 February 2014 - 03:01 PM.