`

Jump to content









Photo

Walkthrough : StarCraft 2 Wings of Liberty [Part 2] Terran History



Posted ImagePosted Image


• TERRAN •
Posted ImagePosted Image


ศตวรรษที่ 21 โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย
มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมาในระยะเวลาอันรวดเร็ว
เช่น Cybernetic การสื่อสารควบคุมเครื่องจักรและสิ่งมีชีวิต
การโคลนนิ่ง, การสังเคราะห์ยีนส์ ซึ่งนักวิจัยได้นำวิทยาการเหล่านี้มาทดลองใช้กับมนุษย์
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ถูกกลุ่มคนเป็นจำนวนไม่น้อยต่อต้าน
สาเหตุมาจากการวิจัยเหล่านี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายมนุษย์
มนุษย์ที่ถูกนำไปทดลองเกิดการกลายพันธู์ ทำให้ร่างกายและจิตใจเปลี่ยนไป
จนเหตุการณ์เริ่มบานปลาย เกิดเป็นการจราจลไปทั่ว
ทางรัฐบาลโลกจึงมีการกวาดล้างอย่างหนักและจับกุมกลุ่มผู้ประท้วง
ในขณะที่สื่อทั้งหลายกลับรายงานสถานการณ์บิดเบือนต่อความเป็นจริงที่ว่า ไม่มีการใช้ความรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้น
จนเมื่อถึงปี 2229 ในศตวรรษที่ 22 ได้มีการก่อตั้งรัฐบาลโลกขึ้นมาใหม่
ใช้ชื่อว่า UPL (Unit Power League)

Posted Image
รัฐบาลกลุ่มนี้ได้เข้ามาจัดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวของประชากรบนโลก
มีการกำจัด จับกุมกลุ่มผู้กลายพันธุ์และพวกที่ใช้เครื่องจักรกลแทนส่วนหนึ่งของร่างกาย
มีการประกาศให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาเดียวในโลก
ตลอดไปจนถึงการยกเลิกศาสนา การกำจัดกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงและพวกที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล
สงครามกวาดล้างครั้งนี้ ทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนกว่า 400 ล้านคนเลยทีเดียว

40 ปีผ่านไป โลกมีการคิดค้นวิทยาการใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
หนึ่งในนั้นก็คือ Warp-Drive ที่ทำให้ยานอวกาศเดินทางข้ามไปมาสู่ดวงดาวได้อย่างรวดเร็ว
และ Cryogenic Hibernation การแช่แข็งสิ่งมีชีวิต
เพื่อหยุดกระบวนการทำงานและสามารถทำให้กลับมาเป็นแบบเดิมได้

หลังจากนั้นก็ได้มีนักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งนามว่า Doran Routhe
ได้ทำการคัดเลือกพวกกลายพันธุ์ทั้งหลายที่ถูกจองจำเอาไว้ มา 40,000 คน
โดยได้แบ่งขึ้นยานสำรวจ 4 ลำ ได้แก่ยาน Nagglfar ซึ่งเป็นยานหลัก
Sarengo, Reagan และ Argo โดยนักโทษทั้งหมดจะถูกแช่งแข็งในระหว่างการเดินทางสำรวจ
โดยมี Atlas หุ่นยนต์ AI. คอยทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและส่งข้อมูลกลับมายังโลก

Posted Image

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเดินทางนั้น Atlas ได้ตรวจพบความผิดปกติจากพวกนักโทษที่ถูกแช่แข็งอยู่
แต่ก็ทำให้ตัว Atlas เองเกิดการชำรุด จึงทำให้ไม่สามารถส่งข้อมูลกลับมายังโลกได้
แถมระบบนำทาง ที่ตั้งไว้ให้ลงจอดที่ดาว Gantris VI ก็ชำรุดเสียหาย
ยานทั้ง 4 ลำ จึงเดินทางล่องลอยแบบไร้จุดหมาย
จนเวลาผ่านไปถึง 28 ปี ยานจึงตกลงสู่ระบบดาว Koprulu ที่อยู่ห่างจากโลกไป 60,000 ปีแสง

Posted Image

ยาน Reagan และยาน Sarengo ตกที่ดาว Umoja
(Sarengo ร่อนลงผิดพลาด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8,000 คน)
ยาน Argo ตกลงที่ดาวเคราะห์สีแดงชื่อ Moria
ยาน Nagglfar ตกลงที่ดาว Tarsonis

Posted Image

ในช่วงแรกนั้น ยานทั้ง 4 ลำ ไม่สามารถติดต่อหากันได้เลย
พวกนักโทษที่เพิ่งตื่นขึ้นมาดูโลกใหม่ ทุกคนต่างงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทำได้แค่เพียงเอาตัวรอดในโลกที่พวกเขาไม่รู้จัก
แต่ยาน Nagglfar ที่มี Atlas นั้นได้เปรียบมากกว่าเพื่อน
พวกนักโทษได้ใช้ประโยนช์จาก Atlas ในการเอาตัวรอด
และสามารถพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ได้เร็วกว่ายานลำอื่น

Posted Image

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ต้องใช้เวลาถึง 60 ปี
ผู้คนจากยาน Nagglfar ที่อาศัยอยู่บนดาว Tarsonis และ ยาน Argo จากดาว Moria
จึงสามารถใช้ยานอวกาศและ Warp Gate แบบง่าย ๆ เดินทางไปมาหาสู่กันได้

Posted Image

พวกที่อยู่ใน Tarsonis ได้เริ่มทำการสำรวจดวงดาวในระบบ Koprulu
ทำให้ทาง Tarsonis สามารถครอบครองและขยายอาณานิคมบนดวงดาวใกล้เคียง เป็นจำนวณถึง 7 ดวง
Tarsonis จึงเป็นดาวที่มีความเจริญก้าวหน้ามากที่สุดในบรรดาดาวหลักทั้ง 3 ดวง
จนในที่สุดก็มีการประกาศจัดตั้งรัฐบาลในชื่อ Confederacy เมื่อปี 2323 (ศตวรรษที่ 23)

Posted Image

หลังจากตั้งรัฐบาลใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง Confederacy
ก็ได้ใช้กองกำลังที่มีอยู่ เข้าบุกยึดครองดาวหลักที่เหลือคือ Umoja และ Moria
ดาว Moria ได้จัดตั้งกองกำลัง ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มระหว่าง Kelanis ที่เป็นกองกำลังทหาร และ Morian Mining พวกขุดแร่
ขึ้นมาต่อสู้กับฝ่าย Confederacy จนเกิดเป็นสงคราม Guild War ขึ้น สงครามครั้งนั้น กินระยะเวลายาวนานถึง 4 ปี

Posted Image

สงครามจบลงด้วยการที่ Confederacy ได้ขอเจรจาสงบศึก
แต่เนื่องจากชาว Moria ส่วนใหญ่ที่อยู่ในกลุ่ม Morian Mining
ได้หนีไฟสงครามไปอยู่กับพวก Confederacy
จึงทำให้ Confederacy ถือครองกรรมสิทธิ์หลาย ๆ อย่างใน Moria
ส่วนทางดาว Umoja นั้น กลัวจนไม่กล้าทำอะไร ได้แต่ยอมรับสภาพการปกครองในครั้งนี้
สงคราม Guild War จึงกลายเป็นสงครามที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับ Confederacy ไปในที่สุด

Posted Image

ด้วยการปกครองที่แย่ และใช้กำลังเข้าข่มเหงประชาชนบ่อยครั้ง
จึงทำให้ชาว Morian และชาว Tarsonis เริ่มไม่พอใจ จนนำไปสู่การรวมกลุ่มกบฎแห่ง Kahol
พวกกบฎแห่ง Kahol ได้สร้างความวุ่นวายต่าง ๆ ให้ Confederacy อยู่เป็นระยะ
แต่ทางฝ่าย Confederacy ก็ได้ตอบโต้ด้วยวิธีที่ไม่รุนแรงมากนัก
แต่พอนานเข้า ความเสียหายเริ่มหนักขึ้น
จนทำให้ทาง Confederacy ประกาศกฏอัยการศึก
แต่นั่นก็ยิ่งเหมือนกับการราดน้ำมันลงบนกองไฟ
ประชาชนทั่วไปต่างลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน Confederacy อีกครั้ง
ผู้คนที่ไม่พอใจจึงได้เข้ารวมกับ กลุ่มกบฏแห่ง Kahol
ที่มีผู้นำคือ Angus Mengsk เป็นจำนวนมาก

Posted Image

Confederacy ต้องการกำจัดผู้นำกลุ่มกบฎแห่ง Kahol แบบถอนรากถอนโคน เพื่อยุติปัญหาทั้งหมด
จึงได้ส่งหน่วยสังหาร Ghost เข้าไปลอบฆ่า Angus Mengsk ผู้นำของกลุ่มกบฏ Kohal รวมทั้งภรรยาและลูกสาวของเขา

Arcturus Mengsk ผู้เป็นบุตรชายของ Angus Mengsk
ที่กำลังสร้างความรุ่งเรืองให้กับตัวเองด้วยการทำการค้ากับพวก Confederacy
หลังจากได้รับรู้ข่าวที่พ่อเขาถูกฝ่าย Confederacy ลอบสังหารพร้อมแม่และน้องสาว
จึงทำให้ Arcturus โกรธแค้นและแยกตัวออกมาเพื่อมาต่อต้าน Confederacy

Posted Image

Arcturus ได้รวบรวมกองกำลังผู้เคยติดตามพ่อขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อต่อสู้และทวงแค้นในครั้งนี้
ทางด้าน Confederacy ได้ตัดสินใจเพื่อแก้ปัญหานี้
ด้วยการยิงจรวดนิวเคลียร์ถึง 1,000 ลูก เพื่อโจมตีดาว Moria ที่พวก Kahol ส่วนใหญ่อาศัยอยู่
ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตถึง 4,000,000 คน

Posted Image

แต่ Arcturus ก็รอดมาได้ เพราะในตอนนั้น เจ้าตัวอยู่ที่ฐานทัพลับบนดาว Umoja
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ได้สร้างความโกรธแค้นให้ Arcturus มากเข้าไปอีก
เขาจึงได้จัดตั้งกลุ่ม Sons of Kahol ขึ้นมา แล้วประกาศว่าจะโค้นล้มพวก Confederacy ให้จงได้


Posted Image


CONTINUE TO PART 3
:: PROTOSS ::

Posted Image

:: ที่มาข้อมูล ::
StarCraft Wiki
IonRa

:cat_dance: Posted Image :cat_dance:
ผลงานนี้ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
3.0 ประเทศไทย